PHAHONYOTHIN.COM

Phahonyothin Ads

จาก 300,000 เป็น 30,000,000 ใน 7 ปี จากประสบการณ์ของคุณ เทียนย้อย แห่ง Pantip

nattasan

  • **
  • 85
  • +0/-0
    • ดูรายละเอียด
สวัสดีครับ

วันนี้ผมได้มีโอกาสอ่านเรื่องราวการทำธุรกิจของคุณ เทียนย้อย แห่ง Pantip ครับซึ่งดีมากๆ ครับ และผมต้องขออนุญาตนำมาเผยแพร่นะครับเพราะว่าเป็นเรื่องราวที่ดีมากครับ และผมก็อยากให้ RATCHAYOTHIN.COM แห่งนี้มีส่วนในการเผยแพ่รให้ทุกคนได้เห็น ได้อ่านครับ

ขอขอบคุณที่มาครับ : http://pantip.com/topic/32712841

ขอบคุณครับ
"เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม"

Phahonyothin Ads


nattasan

  • **
  • 85
  • +0/-0
    • ดูรายละเอียด
เรื่องราวของคุณ เทียนย้อย แห่ง Pantip เริ่มที่นี่ครับ  :)

***** ผมอยากเขียนเรื่องราวเล็กๆน้อยๆนี้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ/แชร์ประสบการณ์ กับผู้ที่กำลังอยากเริ่มประกอบธุรกิจส่วนตัวที่ยังไม่รู้จะทำอะไร กล้าๆกลัวๆ

เคล็ดลับง่ายๆที่ทำได้จริงไม่ต้องมโน ไม่ใช่สานต่อธุรกิจพ่อแม่ แต่self madeได้เอง อาจเป็นตัวเงินไม่มากสำหรับหลายๆท่าน แต่มันมากสำหรับผม เริ่มเลยนะครับ

ก้าวที่ 1 สู่ความล้มเหลว
ระหว่างทางผมขับรถไปส่งของให้ที่บ้าน เห็นตึกแพลตินั่มเปิดจองทำเล ผมจึงเข้าไปทำเรื่องขอเช่า ผ่านไปสองเดือนอีกไม่กี่วันก็จะเปิดตึกล่ะ จึงแวะเข้าไปถาม สุดท้าย จนท บอกน้องไม่เคยมีหน้าร้านขายจึงไม่มีสิทธิ ผมก็หมดหวัง แต่ผมก็อ้อนวอน จนท เห็นว่าเหลืออยู่แค่สี่ห้องที่ทำเลไม่สวย เลยถามน้องจะเอาไหม สรุปผมก็ได้มาหนึ่งห้อง (นี้ละครับดาวนำโชคดวงที่หนึ่ง คือ คุณได้ทำเลทองก็มีชัยไปกว่าครึ่ง) ***

พอได้ปุ๊ปงานเข้า ใครจะช่วยทำ ผมจึงไปชวนให้พี่สาวลาออกจากงานประจำ แล้วให้ความหวังเข้าสุดฤิทธิ์ว่ามันจะเวิร์ค พี่สาวผมก็ร้องไห้ แล้วบอกว่าออกมาแล้วอย่าทิ้งกันนะ ผมก็บอกแน่นอน แต่ในใจผมยังไม่รู้จะเป็นไงเลย (คุณต้องมีหุ้นส่วนที่ความคิดพร้อมจะไปกับคุณ)***

คำถามยอดฮิต แล้วผมจะขายอะไร ผมยังไม่รู้เลยจะขายอะไร มีเวลาอีกสามสิบวัน ผมจึงไปเปิดหนังสือเส้นทางเศรษฐีในมติชน จนไปเจอคอร์สสอนทำรองเท้า ผมจึงใช้เวลาสามสิบวันไปเรียนตัดรองเท้า ส่วนพี่สาวผมให้ไปเรียนตัดเย็บเสื้อยืด พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าจะเกิดไรขึ้น(ไม่มีการวางแผน แล้วไปตายเอาดาบหน้า คือความผิดมหันต์ตั้งแต่แรก)***

สุดท้ายผมได้ออกมาเปิดโรงงานทำรองเท้าแตะ พนักงานสามคน(ทาวเฮาส์เล็กๆ) ผมต้องวิ่งวุ่นไปซื้อวัตถุดิบ แล้วกลับมาทำ แล้วไปส่งเข้าร้าน แถมต้องเฝ้าร้านอีก ชีวิตบัดซบมาก ชีวิตผมช่วงนั้น Loss in decade ไม่ได้เจอใครเลย (ถ้าคุณเป็นศูนย์กลางของการทำทุกสิ่ง คุณก็เตรียมตัวตายไปกับงานเลย)***

ส่วนพี่สาวผมก็ไปจ้างเพื่อนเขาตัดเย็บ สกรีนแล้วออกแบบลายไทย เพราะน่าจะขายลูกค้าต่างชาติได้ โดยช่วงนั้นพี่สาวผมก็จะเฝ้าหน้าร้านเป็นหลัก เชื่อไหมครับว่าเดือนหนึ่งขายรองเท้าแตะได้วันละสี่ร้อย เสื้อวันละสองพัน คิดเอาครับจะรอดไหม(ถ้าคุณทำในสิ่งที่ไม่ถนัด มันจะออกมาเป็นขยะเต็มร้าน)***

ผมฝืนแบบนี้มาหนึ่งปี ขอบอกใครบอกว่าเป็นเจ้านายตัวเองมันสบาย ขอบอกบัดซบมากๆ บางวันขายได้วันละสี่สิบเก้าบาท รองเท้าแตะหนึ่งคู่ ผมกลับมานั่งคิดวางแผนใหม่ว่าไม่ใช่ละ (ผมเริ่มวางแผนละ) กว่าจะเริ่มวางตอนนั้นขาดทุนไปละห้าแสน ผมจึงต้องประกาศปิดโรงงานทำรองเท้าแตะ พร้อมต้อง Lay Off`พนักงานทั้งหมด แต่เสื้อยืดลายไทยยังขายต่อไป(ถ้าคุณทำในสิ่งที่คุณอยากทำแต่ตลาดไม่ได้ต้องการ คุณก็จะได้ใช้มันเพียงคนเดียว)***

ผมจึงเริ่มไปโบเบ้ สำเพ็ง โรงเกลือ นำสินค้ามาขายเปลี่ยนสินค้าไปกว่าสิบชนิด เช่น รองเท้าส้นสูง กระเป๋า เสื้อยืด เข็มขัด กางเกง ร้องเท้าผ้าใบ โดยสต๊อกบางส่วนก็เก็บไว้ที่โรงงานที่ยุบไป ก็เริ่มกลับมาขายได้แค่อยู่ไปวันๆ (ถ้าคุณขายสินค้าที่หาได้เหมือนกันทุกๆที่ ไม่มีความแตกต่าง คุณก็จะแค่อยู่ได้) ***

ช่วงนั้นผมก็มีเวลามาอยู่หน้าร้าน แล้วเริ่มจ้างเด็กมาขายหน้าร้าน เพราะเริ่มอยู่ตัว แต่ไม่มีกำไร วันๆขายได้วันละ5000-6000 ผมเคยคิดคนอื่นเค้าขายไงหว่า วันละแสน เชื่อไหมผมคิดไม่ออกเลย เพราะแค่หมื่นผมยังไม่เคยสัมผัส ชีวิตเหมือนจะราบเรียบ จนวันนึงผมแวะกลับไปเอาสต๊อกที่โรงงาน เชื่อไหม ไม่เหลือสินค้าใดๆในโรงงานเลย ผมโดนยกเค้า จากเด็กขี้ยาแถวนั้น ของหายหมด สายไฟ เครื่องเย็บจักร หมด หมด หมด ชีวิตดับสูญ
วันนั้นจึงได้มีโอกาสคุยกับพ่อ ถึงตอนนี้จะขาดทุนไปแล้วกว่าเจ็ดแสนแต่ลูกได้พยายามล่ะ (กำลังใจจากรอบข้างคือส่วนนึงที่คุณต้องมี)***
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2014, 08:44:24 pm โดย nattasan »
"เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม"

nattasan

  • **
  • 85
  • +0/-0
    • ดูรายละเอียด
จุดเปลี่ยนผัน PART2
ช่วงนั้นเข้าสู่ปีที่สาม ตึกแพลตนินั่มเข้าสู่ช่วงพีคสุดๆ ราคาห้องเช่าช่วงนั้นถูกปั่นกระจายจากนายหน้า ราคาห้องชั้นหนึ่งขายขาดที่15-20ล้าน แต่ขายเปลี่ยนมือได้ถึงราคา40-50ล้าน(ถ้าย้อนเวลาได้จะไปซื้อไว้ซักสามห้อง แหม่ๆหนึ่งล้านยังไม่มีเลย) ห้องที่ผมอยู่ชั้นสี่เป็นห้องที่เช่าโดยตรง เชื่อไหมมีคนมาขอเซ็งต่อห้องผมที่1,000,000บาท ผมแทบไม่อยากเชื่อ ผมเช่ามาฟรีแต่ขายได้ราคาขนาดนี้ ถ้าผมขายจากขาดทุนเจ็ดแสนจะกลับมากำไรสามแสน ผมคุยกับพี่สาวเราจะขายไหม (ความมุ่งมั่นคือหนทางแห่งชัยชนะ)***

ช่วงเวลานั้นมีร้านค้าย้ายมาใหม่ ผมก็ใจจดจ่อว่าใครจะมา แล้วขายอะไร สุดท้ายมันคือร้านเสื้อยืด(ดาวนำโชคดวงที่สอง) ร้านเค้าย้ายมาจากจุตจักร แล้วมาเปิดสาขาเพิ่มที่ประตูน้ำ เชื่อไหมร้านเค้าขายดีมากๆๆ ขนาดที่ว่าลูกค้าเดินผ่านแล้วยังต้องคอหักกลับมาดู นั่นละคือจุดเปลี่ยนของชีวิตผม ผมเจอแล้วสินค้าในตำนาน สินค้าเสื้อยืด แต่ทำไมมันช่างขายดี (คู่แข่งคือตัวที่ทำให้คุณต้องปรับตัวตลอดเวลา)***

ผมมานั่งวิเคาะห์ว่าทำไมเสื้อยืดเหมือนกันแต่จึงมีความแตกต่าง วันนั้นผมจึงได้เข้าใจว่าเสื้อยืดแบ่งประเภทย่อยๆได้อีก(คุณต้องเข้าใจให้ลึกซึ้งถึงตัวผลิตภัณณ์ที่คุณจะขาย)***

หลังจากนั้นผมจึงไปค้นหาว่าที่ใดในประเทศไทยขายสินค้าประเภทนี้ ผมไปหาที่โบเบ้ สำเพ็ง เชียงใหม่ โรงเกลือ จนผมมาพบที่จตุจักร มีเป็นสามสิบร้านค้า เราไปอยู่บนที่ใดบนโลกใบนี้ต้องนาน (ถ้าคุณจะขายสินค้าใด คุณต้องรู้จักคุ่แข่งคุณให้ทั่วทิศ)***

ผมจะต้องทำไงกับสินค้าที่ตายในร้าน ผมจึงเริ่มขายเหมาได้กลับมา30%ขาดทุนกระจาย บางส่วนขายไม่ได้ก็เอาบริจาคหมด(ทุนยังไงก็ยังสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง)***

ผมขอบอกเลย ณจุดนี้ผมเลว ผมหน้าด้าน ผมไร้จรรยาบรรณ ผมเริ่มไปเอาสินค้าจากจตุจักรมาขาย (หลายคนอาจบอกว่าไร้จรรยาบรรณตรงไหน แค่คุณตั้งใจก๊อปร้านที่คุนขายแถวเดียวกันก็ผิดล่ะ) ผมต้องขอขอบคุณร้าน BITMAP ผมขอให้เป็นอาจารย์ผม และเป็นร้านเดียวที่ผมก๊อปแนวคิด(ถ้าคุณไม่ใช่สตีฟจ๊อป คุณไม่ต้องไปคิดนวัตกรรมใหม่ๆ ขอให้คุณหาสินค้าที่ขายดีแล้วหาจุดต่าง)***

หลังจากนั้นเจ้าของร้านBITMAP`มายืนด่าผมหน้าร้านว่าหน้าด้าน แต่ผมได้ทำไปแล้ว แต่เชื่อไหมตอนนั้นผมก็ขายดีแต่ไม่กำไร ผมรับมาหนึ่งร้อย ก็ขายส่งหนึ่งร้อย ขาดทุนค่าเดินทางไปเอาอีก(ถ้าคุณจะรวยต้องมีลูกค้าส่ง)***

หลังจากนั้นผมก็เริ่มไปเอาของไม่ได้ละ เพราะร้านที่ผมไปเอาที่จตุจักรเป็นกลุ่มเพื่อนดียวกันกับBITMAP ผมจึงต้องไปหาร้านอื่นในจตุจักร แต่ก็เอามาขายเริ่มไม่ดีเท่าเพราะสวยไม่สู้ แล้วผมจะทำไงต่อ ผมจึงต้องเริ่มทำเอง ผมจะกลับไปใช้โรงตัดเย็บที่เก่าก็ไม่ได้ เพราะระบบยังไม่ใช่ผู้ชำนาญ ผมจึงเปลี่ยนทั้งระบบ(ระบบผู้ผลิตที่ดีจะทำให้สินค้าคุณมีคุณภาพ)***

ผมจึงเริ่มรุก
"เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม"

nattasan

  • **
  • 85
  • +0/-0
    • ดูรายละเอียด
กบกระโดด Part3
ทำไมผมผลิตเองแล้วยังขายไม่ดี ทั้งๆที่ผมก็เจอสูตรสำเร็จแล้วนิ (ถ้าคุณขายสินค้า ที่ไม่ได้สำรวจความต้องการจากลุกค้า ก็เป็นแค่ความอยากของคุณเอง)***

หลังจากนั้นผมจึงมองเสื้อของผุ้ชายทุกคนที่เดินผ่านผม จนกลายว่าผมเป็นคนโรคจิตไประยะนึง (สำรวจ สำรวจ สำรวจ กลุ่มลุกค้า)***

ผมจึงกลับมาถามตัวเองว่า ผมขายอะไร ผมขายใคร ทำไมลุกค้าต้องมาซื้อผม ทำไมลุกค้าจึงจะเปลี่ยนใจมาจากเจ้าอื่น ทำไมลุกค้าจึงจะซื้อซ้ำ(ตั้งคำถามเยอะๆ แล้วต้องตอบด้วยตัวเองให้ได้)***

ผมคงจบแค่ตรงนี้ ที่มีกำไรหลักหมื่น ไม่ขาดทุนแล้ว Happy Ending เพราะผมก็ชอบอะไรสบายๆComfort Zone
วันนึงพี่พัน(ดาวนำโชคดวงที่3) เพื่อนที่เคยเจอช่วงเรียนรองเท้ามาหาที่ร้าน แกเป็นเจ้าของร้านตัดผม(แกเป็นเกย์ควีน)ผมก็ชวนแกมาทำเสื้อร่วมกัน ผมจึงเปิดสาขา2 (พันธมิตรที่ดีช่วยส่งเสริมให้คุณโตเร็ว)***

พอผมเปิดสาขา2ซักพัก ผมได้ออเดอจากดูไบ(ดาวนำโชคดวงที่4) ออเดอร12,000ตัว คิดเป็นเงิน1,000,000 ผมโชคดีโคตรๆกำลังจะรวยแล้ว แต่ปันหาผมมีเงิน500,000 จะไปทำออเดอหนึ่งล้านได้ไง ผมจึงขอเก็บมัดจำ30%แล้วเอาไปคำประกันกับร้านผ้า(เครดิตที่ดีจะช่วยให้คุณจับเสือมือเปล่าได้)***

หลังจากนั้นผมกับพี่พันฮึกเหิมมาก จนขยายไปเปิดร้านสาขา3 สาขา4 สาขา5 สาขา6 ในแพลตินั่มในเวลา1ปี ช่วงนั้นโตเร็วสุดๆ เงินล้าน สองล้าน สามล้าน สี่ล้านมาจนนับไม่ทัน ในขณะนั้นมีร้านเสื้อผุ้ชายแค่30ร้านค้า (โอกาสมาแล้วต้องตีให้แตก)***

จุดแตกหักของหุ้นส่วน
"เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม"

nattasan

  • **
  • 85
  • +0/-0
    • ดูรายละเอียด
ช่วงวัยอาลัย Part4
หลังจากนั้นผมมีความเห็นพ้องกับพี่พันว่า โตแล้วต้องแตก แต่ในช่วงนั้นพี่พันแกไม่มีทุน ผมจึงต้องสนับสนุนแกเรื่องเงินทุน จึงให้แกยืมไป2ล้านบาท(โตแล้วต้องแตกเพื่อลดปัญหาแล้วขยายอิสระ)***

หลังจากนั้น1ปี พี่พันแกไปเปิดสาขาในภาคกทม ภาคกลาง ภาคตะวันออก เป็นจำนวน25สาขาภายใต้แบรนด์chada yes ดอชะฏา ยอดขาย12ล้านต่อเดือน(ขณะนั้นยังไม่มีuniquo H&M )ส่วนผมไปเปิดที่มาบุญครอง กรุงทอง1 จตุจักร เจเจมอล เจ็งหมด (ถ้าคุณไม่มีทีมงานที่พร้อม อย่าเพิ่งขยาย)***

ร้านที่แพลตผมกำลังจากตาย เนื่องจากยอดขายรอบนอก25สาขากำลังทำลายจุดศุนย์กลาง ผมจึงคุยกับพี่พันตรงๆ ว่าผมขอสิทธิในแพลต6สาขา แล้วอีก25สาขาพี่ดูแลไป (ผมกำลังจะตายต้องดิ้นรนเพื่อความอยุ่รอด)***

ผ่านไป2ปี พี่พันล้มละลาย พร้อมหนี้สิน5ล้าน แล้วก็ไม่สบาย จากโลกนี้ไป ผมจึงอโหสิกรรมหนี้ทั้งหมด แต่แกได้ทิ้งวิชาไว้ให้ รวมถึงผลิตภัณฑ์เสื้อชิ้นพิเศษ(ดาวนำโชคดวงที่5) ที่ทำเงินให้ผมอีก10ล้าน

พี่พันคืออาจารย์อีกคนที่สอนให้ผมรุ้จักการทำธุรกิจ ผมไม่เคยลืมบุญคุณคนที่ทำให้ผมมีวันนี้ได้
1.พ่อแม่พี่สาว
2.คุ่แข่ง BITMAP ซักวันต้องตอบแทน***
3.พี่พัน ขออโหสิกรรมหนี้สินให้ทั้งหมด
4.ทีมงาน
5.ลุกค้า

หลักข้อคิดที่ได้จนทำให้พบกับคำว่ากำไร
-ให้ผลิตในสิ่งที่ลุกค้าต้องการ ไม่ใช่ที่คุณต้องการทำ
-สำรวจ สำรวจ สำรวจ ความต้องการลุกค้า และคุ่แข่งเสมอ
-คุ่แข่งจะทำให้คุณพัฒนา
-เวลาขายไม่ดี อย่าโทษตลาดให้ดูปัญหาจากตัวเอง ให้โทษตัวเองว่าเราได้ปรับปรุงหรือยัง
-ถ้าคุณจะรวยได้ต้องมีลุกค้าส่ง เพราะจะมีแรงขยันอีก10มือ
-คุณต้องสร้างระบบที่ดี แล้วจะเพิ่มศักยภาพ
-จงรักษาcredit
-ถ้าคุณหยุด เท่ากลับถอยหลังให้คุ่แข่ง

ช่วงขาลงธุรกิจ ทดถอย หมดไฟ ไร้พลัง ผมกำลังจะตายจากอาการป่วย
"เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม"

nattasan

  • **
  • 85
  • +0/-0
    • ดูรายละเอียด
ปลง ปล่อยวาง ไร้พลัง Part5(บทสรุป)
ช่วงธุรกิจที่6 ช่วงนั้นยังเป็นช่วงกอบโกย ลูกค้าที่ปลีก ส่งต้องยืนรอต่อแถวเอาสินค้า(คิดแบบกาเร็ตปอปคอร์น 555 เวอร์ไป) จะไม่ขายดีได้ไง มีร้านเสื้อผุ้ชายประมาณ50ร้านค้า แล้วสินค้าผมยิ้มโคตรโดนตลาด(สินค้าที่ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วมันคือเพชร)***

เย็นวันนึงระหว่างขายผมยืนไม่ได้ ผมต้องนอนไปที่พื้นของร้าน ผมไม่มีแรง ปวดกล้ามเนื้อไปทั้งตัว สรุปผมเป็นไวรัสบีตับอักเสบขั้นรุนแรง ผมใช้เวลารักษาอยุ่6ด ระหว่างนั้นผมไม่มีกำลังใจทำ ไม่มีแรงอยากจะคิด ผมบอกตัวเองขอย้อนกลับไปวันที่มี3แสน แล้วสุขภาพกลับมาแข็งแรง ผมกำลังกลัวตาย(สุขภาพสำคัญกว่าเงิน)***

ช่วงนั้นผมจึงลดเหลือ4สาขา ผมหมดไฟ ไร้พลังต่อสุ่. แต่ความซวยที่ยิ่งใหญ่กำลังมาเยือน แพลตตินั่มเปิดตึกสอง แล้วให้ลุกค้าที่ขายรองเท้า กระเป๋า เครื่องหนังย้ายไปตึกใหม่ทั้งหมด. ด้วยสัญชาติญาณที่ชำชองในแพลต ผมรุ้ละหายนะกำลังมาเยือน(คุ่แข่งที่ไม่ต้อนรับกำลังมา)***

ห้องในแพลต ชั้น3-4 ว่าง300-400ห้อง เกิดการถ่ายเท. เกิดอะไรขึ้นรุ้ไหมครับ แพลตินั่มจะทำชั้น4ให้เป็นชั้นเสื้อผุ้ชาย หมายถึงว่า จากคุ่แข่ง50ร้านค้า จะกลายเป็น400ร้านค้าในทันที(เสือหลับกำลังจะตื่น)***

ผมรุ้ละว่าอะไรจะเกิดในช่วงถ่ายเท ในช่วงปีที่8-9ผมจึงตักตวงความสุขสุดท้าย ก่อนที่ตลาดจะเป็นRED OCEAN ตลาดที่แข่งแต่ราคา หาความต่างลำบาก.(สินค้าที่ทำถ้าไม่มีBarrier of entry ก็ต้องตายจาก)***

บทสรุป เกิด ตั้งอยุ่ ดับไป ไม่มีอะไรจีรัง

ขอบทุกทุกท่านที่เสียสละเวลาอ่าน ติดตาม หวังว่าจะได้อะไรบ้างนะครับ

ขอขอบคุณ คุณ เทียนย้อย แห่ง Pantip สำหรับเรื่องราวที่ดีเยี่ยมครับ  :)
"เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม"

nattasan

  • **
  • 85
  • +0/-0
    • ดูรายละเอียด
เนื่องจากกระทู้แรกที่ผมลงหัวข้อ "จาก300,000 เป็น30,000,000ใน7ปี "

มีหลายท่านๆอินบอกเข้ามาอยากให้ผมสรุปหลักการทำธุรกิจเบื้องต้นที่ผมใช้ ที่เคยทั้งผิดพลาดและสำเร็จ เพื่อเป็นแนวทางเบื้องตัน

กระทู้นี้ผมเคยเขียนไปแล้ว วันที่9/07/2013 กระทู้ที่ว่า กฎ1-100ข้อง่ายๆในการเปิดธุรกิจ ผมขอนำมารีรันน่ะครับ เพราะเป็นกระทู้ของผมที่ได้รับการ์แชร์มากที่สุด 102 shares

ผมจะแบ่งเป็น5ส่วนเหมือนเดิม

กฎ1-100ข้อง่ายๆๆในการจะเปิดทำธุรกิจ เผื่อจะเป็นไอเดียเริ่มต้นสำหรับใครที่อยากจะมีธุรกิจส่วนตัว แต่ยังไม่กล้าเปิด

(1-20)
1 คุณจะต้องขายสิ่งทีตลาดต้องการไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากจะขาย
2ต้องเป็นสิ่งที่ตัวเองถนัด
3 สิ่งที่จะทำ ต้องขายส่งได้ด้วย เพราะขายปลีกมันไม่รวย แล้วมันกระจายจุดไม่ได้. ถ้าของเราขายส่งได้ มันสามารถไปอยู่ได้ทุกมุมโลก
4 ของที่เราขายส่งได้ ในระยะยาว เราต้องเป็นผู้ผลิตเองได้.
5 สิ่งที่เราขาย ต้องไม่ใช่สิ่งที่เหมือนๆๆกันแล้วแข่งเพียงแต่ราคา เช่นไข่ไก่. แต่เสื้อยืดคุณขายดีไซน์ไอเดียได้
6 สิ่งที่คุณจะขาย ต้องมีจุดแข็ง ที่เป็นจุดแข็ง ที่ไม่ใช่คำว่า ราคา คุณภาพ บริการ แต่มันต้องลึกกว่านั้น
7 คุณต้องตอบให้ได้ว่า ทำไม ลูกค้า ต้องซื้อสินค้าคุณ ทำไมเค้าต้องไม่ไปซื้อคู่แข่ง
8 คุณต้องรูว่า กลุ่มเป้าหมายคุณคือใคร แล้วทำเลนั่นมีกลุ่มเป้าหมายคุณมีไหม
9 คุณจะเป็นใครในตลาด รวมๆๆหมายถึง คุณจะขาย สินค้าระดับไหน ราคาระดับไหน ภาพลักษณ์คุณระดับไหน
10 ร้านอาหาร ข้าวมันไก่เหมือนๆๆกันแต่ทำไมร้านนี้คนเต็ม อีกร้านไม่มี ลูกค้า. เวลาคุณเดินผ่าน คุณจะเลือกเข้าร้านที่คนเยอะ แม้คุณจะไม่เคยกิน แต่คุณจะคิดว่าร้านนี้ต้องอร่อยคนจึงเต็ม. คุณจะทำยังไงให้ร้านคุณ ลูกค้าผ่านครั้งแรกแล้วอยากเข้า

11คุณต้องสร้าง ระบบ ที่ระบบนั่นไม่ได้ยึดตัวคุณ แต่ดำเนินการด้วยตัวมันเอง คุณเพียงเป็นคนตรวจคุมระบบ
12อะไร จะเป็นจุดแข็งคุณ เมื่อมีคนอื่นมาเป็นคู่แข็ง หรือมีคนมากอปปี้. คุณจะทำยังไง. คุณต้องมีจุดแข็งตรงนั้น เพราะ ธุรกิจเป็นระบบเสรี.
13 การลดต้นทุน คือกำไรอัตโนมัติ คุณขายได้1,000หน่วย ลดต้นทุนได้2บาท เท่ากับว่าคุณกำไรตั้งแต่ยังไม่ขาย 2,000แล้ว
14 พนักงาน คือสิ่งที่สำคัญ. ถ้ายิ่งพนักงานอยู่นานเท่าไร เท่ากับปะสบการณ์ ยิ่งมาก สามารถ จบลูกค้าได้ง่าย คุณจะทำยังไงให้ พนักงานอยู่นานที่สุด
15 คุณจงคำนวณ ยอดขายต่ำสุดในช่วงโลว์ซีซัน แล้วหาจุดคุ้มทุน ถ้าช่วงโลว์สุดยังกำไร ก็ตัดจุดเจ๊งได้เลย
16 คุณจะต้องสำรวจตลาดเสมอ เพราะ การตลาด เพียงแค่คุณหยุด คู่แข็งคุณก็ก้าวล้ำคุณไปแล้ว. ถ้าคู่แข่งคุณหยุด แล้วคุณพัฒนา คุณก้าวล้ำ2ก้าว
17ในวิกฤติ มีโอกาสเสมอ ในช่วงโลว์ ทุกคนหยุดกิจกรรมเสมอ. เพียงคุณกระตุ้นแผนการตลาด ลูกค้า ก็รับรู้ง่าย
18ในช่วงตลาดโลว์ ลูกค้า เดิมๆๆจะขายไม่ดี. จะเริ่มหาเจ้าใหม่ นั้นคือโอกาสของเราเสมอในตลาดโลว์
19 จงแยกแยะลูกค้า ชั้นดี ชั้นกลาง ชั้นแย่. เพราะ ลูกค้า ทุกคน สัดส่วนซื้อไม่เท่ากัน ตามกฎ20/80 คือ ลูกค้า สัดส่วน20% แต่เป็นกำไนของร้าน80%
20 เมื่อคู่แข่งแข่งราคา คุณจงอย่าแข่งราคาจนไม่มีกำไร เพราะธุรกิจต้องการกำไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2014, 09:02:38 pm โดย nattasan »
"เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม"

nattasan

  • **
  • 85
  • +0/-0
    • ดูรายละเอียด
กฎ1-100วิธีง่ายๆในการเปิดธุรกิจ ภาค#2 (21-40)

21 วันที่คุณขายไม่ดี อย่าโทษตลาด เพราะในวันนั้นก็มีคู่แข่งคุณที่ขายดี
22 เวลาคุณขายไม่ดีอย่าเพียงแต่โทษตลาด เศรษฐกิจไม่ดี ฝนตก. แต่หันมาดูตัวเราเองแล้วถามว่า เราทำสินค้าตรงตามความต้องการ ลูกค้าไหม ราคาเราสมเหตุสมผลไหม บริการเราดีไหม
23 อัตราขายส่ง เป็นสิ่งมหัศจรรย์ เพราะเมื่อเรามี ลูกค้า ขายส่ง เท่ากับว่า เรามีหน้าร้านเพิ่ม อัตโนมัติโดยที่เราไม่มีค่าเช่า
24 ลูกค้า ส่งยิ่งมีมาก. สินค้าเราจะไม่เคยค้างสตอก เช่น เราผลิตต่อแบบ50หน่วยต่อแบบ. มีลูกค้าส่ง50เจ้า. ลูกค้ารับไปเจ้าละ1ตัว เค้าจะไม่รูหรอกว่าแบบนั้นขายไม่ดี
25 ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณจะทำอะไร ความคิดตัน คุณแค่เพียงก้าวเท้าออกไปจากร้าน แล้วไปในแหล่งที่ขายของแบบเดียวกับคุณ คุณอาจได้ไอเดียกลับมา.
26 ปันหา108 1000 9(ร้อย แปด พันเก้า)คุณจะบอกไม่รู้จะขายอะไร วิธีง่ายสุดคือ ก๊อปปี้ไง. คุณไปลอกเลียนแบบร้านค้าที่ขายดีแล้วคุณพอจะทำได้ในเบื้องต้น แล้วลงมือดู(แต่คิดเยอะๆก่อนทำ)
27 ก่อนจะทำธุรกิจ อย่าไปลองผิดลองถูก คิดว่าเปิดๆๆไป ขายๆไปเดี๋ยวก็มีคนมาซื้อ. คุณวางแผนก่อนดีไหมว่า จะขายอะไร
หาเหตุผลที่ลูกค้าจะซื้อ. เพราะเงินลงทุนมีจำกัด
28 ถ้าคุณจะก๊อปปี้ มันก็เป็นทางลัด แต่ไปเปิดไกลๆๆนะ เพราะอาจโดนTeen. คนเขียนเคยโดนมาแล้ว
30 คุณจงรับรู้ไว้ว่า ลูกค้าที่มาซื้อคุณ ไม่ใช่เพราะสินค้าคุณดีสุด ถูกสุด แต่เป็นเพราะตลาดมันไม่สมบูรณ์ด้านข้อมูล

31 ลูกค้าไม่ได้ซื้อสินค้าที่ถูกสุด หรือแพงสุด หรือดีสุด แต่เค้าซื้อที่เค้าต้องการใช้ แล้วราคามันสมกับมูลค่าที่เค้าคิดว่าจะได้รับ
32 ลูกค้า ประจำที่มาซื้อคุณ เค้าคือ LOYALTY CUSTOMER คุณจงดูแลเค้าให้ดี เพราะต้นทุนในการหา ลูกค้าใหม่ แพงกว่า5เท่าในการดูแล ลูกค้าเก่า
33คุณจงทำสินค้าที่ตอบสนอง ลูกค้าส่วนร่วม เพราะเมื่อคุณตอบสนอง ลูกค้า เพียงคนเดียวเมื่อไหร คุณจะเสียความ เป็นส่วนรวมในตลาด ถ้าสินค้าคุณไม่ใช่สินค้าเฉพาะกลุ่ม
34 ถ้าคุณคิดว่าสินค้าคุณขายดีแล้ว แล้วคุณก็ผลิตแต่สินค้าเดิมๆๆ คุณเตรียมตัวตายได้เลย ถ้าสินค้าคุณเป็นแฟชั่น
35 ถ้าสินค้าคุณขายดีในช่วงไฮ คุณจงคิดให้น้อย แต่ทำให้มาก แต่ถ้าคุณขายไม่ดีในช่วงโลวคุณจงคิดให้มาก แต่ทำให้น้อย
36 กลยุทธ์ อาจใช้ได้ดีในช่วงไฮซีซัน แต่อาจแย่ในช่วงโลว์ซีซัน เพราะสินค้ามันมีวัฎจักร
37 ถ้าคุณจะขยายสาขา จงมั่นใจว่าสาขา1คุณใช้เต็มประสิทธิภาพ. จงอย่าคิดแต่เพียงฉันอยากจะเปิด
38 ถ้าคุณจะเปิดสาขา. จงใช้พลังของสาขา เพราะ มันไม่ใช่ 1+1 แต่มันเป็น3
39 ถ้าคู่แข่งคุณมาใหม่แล้วทำให้ยอดขายคุณตก. คุณต้องรีบโจมตี ถ้าปล่อยไว้ระยะยาว คุณจะเสียอำนาจการแข่งขันในระยะยาว(แต่ขอให้โจมตีทางด้านการตลาด)
40 ถ้ายอดขายคุณตก. คุณพึงสังวรณ์ไว้เลย ตลาดได้เปลี่ยนไปแล้ว
"เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม"

nattasan

  • **
  • 85
  • +0/-0
    • ดูรายละเอียด
กฎ1-100ข้อง่ายๆในการเริ่มทำธุรกิจ ภาค#3 (41-60)

41คุณต้องมีสายตาในการประเมินคู่แข่ง มี3แบบ คือ
41.1คู่แข่งโดยตรงในตลาดเดียวกัน
41.2คู่แข่งโดยตรงในตลาดต่างกัน
41.3คู่แข่งไม่โดยตรงแต่กินเงินจากกะเป๋าลูกค้าเดียวกัน
42ลูกค้า คุณคือเครื่องยืนยันดีที่สุด ว่าเค้าซื้อคุณเพราะอะไร มีปากจงถาม ถาม ถาม เป็นวิธีประเมินตัวเองดีที่สุด.
43วิธีจะหาจุดอ่อนคู่แข็ง คุณก็ลองทำตัวเป็นลูกค้าโง่ๆๆไปลองซื้อสินค้าเค้า แล้วอะไรที่เค้าทำไม่ได้. คุณก็เอากลับมาเป็นจุดแข็ง
44ถ้าคุณจะขยายสาขา ขอให้มั่นใจว่าคุณจะดูแลมันทั่วถึง มิใช่ปล่อยให้ร้านค้านั้นกัดกินกำไรจากสาขาแม่ แล้วเป็นสาขาซากปรักหักพัง
45สินค้าที่จะทำเงิน คือสินค้าที่อยู่ในกะแส ที่คุณเป็นผูนำแฟชั่น จับทางให้ถูก ให้ไว แล้วตีให้ร้อน
46ถ้าคุณขายสินค้าไม่ออก อย่าไปโทษลูกค้า แต่คุณจงแน่ใจว่าของที่คุณขายมีคนใช้จริงหรอ. จงรีบ พัฒนาโดยเร็ว หรือ โยนมันทิ้ง แล้วหาสินค้าที่มันใช่ดีกว่า
47คุนอย่าริอาจผลิตสินค้า จนกว่าคุณจะมีลุกค้า เพราะคุณผลิตมาอาจทิ้งยกล๊อต. จงหาลูกค้า ให้ได้ก่อน แล้วค่อยผลิต
48อย่าริขายส่งเลย ถ้ายังขายปลีกไม่ได้ เพราะลูกค้าส่งก็คงเอาของคุณไปดอง เพราะคุณยังขายปลีกไม่ได้ คุณต้องพิสูจน์สินค้าตัวเองขายดีก่อน จะให้คนอื่นไปขายแทน
49ถ้าคุณจะขายส่ง คุณต้องคิดปัญหาแทน ลูกค้าส่งว่าจะเจอปัญหาอะไร. แล้วคุณจะผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ในตลาดให้ ลูกค้าแทน. ลูกค้าส่งมีหน้าที่ขาย คุณมีหน้าที่ผลิตของที่ตลาดยอมรับ
50 กำไรคำนวณให้เป็น บางคนขาย100ต้นทุนสินค้า40 ค่าเช่า20 ค่าเด็ก10 กำไร30
คิดไปคิดมาก็กำไร แต่สุดท้ายเงินไม่เหลือในแบงค์. กำไรแบบนี้ซิมายา เงินที่อยู่ในแบงค์คือกำไร(ต้นทุนแฝงมีมากกว่าที่เราเห็น)

51ไม่มีใครเจ๊งจากการทำธุรกิจที่ไม่ได้ไปกู้มาหรอก แต่ที่เค้าปิดกิจการ เพราะเค้าไม่เห็นอนาคตมากกว่า เพราะก็ยังเห็นกินฟูจิกันอยุ่
52ธุรกิจคุณจะอยู่รอดได้ เพราะ ระบบวัตถุดิบ ระบบผลิต ระบบขนส่ง ระบบขาย อยู่ได้ คุณจงจ่ายในอัตราที่อยู่ร่วมกันได้ เพราะถ้าคุณรวยคนเดียว คนอื่นจน ซักวันคุณจะไม่เหลือระบบ แต่เมือคุณจ่าย คุณก็รับให้เต็มที่ ระบบมันจะแข่งแกร่ง GIVE & TAKE
53ถ้าคุณขายเอง ไม่ปล่อย ไม่ไว้ใจใคร คุณก็ขายเองไปจนตาย.
54ถ้าคุณคือสมองของระบบ จงอย่าเอาตัวลงไปขาย เพราะคุณจะไม่เห็นภาพกว้าง คุณไม่ได้จำเป็นต้องขายเก่ง แต่คุณมีพนักงานขาย แต่คุณต้องรู้รายละเอียด
55ถ้าคุณปล่อยร้านค้าไม่สนใจ อย่าอ้างว่าคุณคือเจ้าของ แล้วไม่ต้องเข้าร้าน แต่เวลาที่คุณไม่อยู่ร้านคุณขอให้แน่ใจว่า คุณยังดูภาพรวมตลาดอยู่
56ถ้าสินค้าคุณเป็นธุรกิจ no barrier of entry คือ คู่แข่งเข้ามาง่าย คุณจงคำนวณเวลาตายของธุรกิจไว้ด้วย เพราะคุณจะได้ไม่ประมาท หรือมองธุรกิจที่2
57คุนอย่าตัดสินใจเลือกทำเลที่ราคาเพียงอย่างเดียว เพราะราคาถูก คุณอาจขายของให้ผี แต่ถ้าค่าเช่าแพง ถ้ามันอยู่ในทำเลที่ดีขายแล้วมีกำไรพอใจ ก็เช่าไปเหอะ
58ก่อนจะเลือกทำเล คุณจงใช้เวลาไปเดินที่นั้น7ครั้ง. ดีกว่า จะมาอยู่เสียค่าเช่าฟรีๆๆ1ปี
59ถ้าคุณคิดว่าคุณจะเปิดร้านแล้ว ขายของที่ต้องตามแฟชั่น หรือคุณต้องไปเลือกของเอง หรือจับจ่ายของทุกวันเช่นขายอาหาร ขอให้มั่นใจคุณต้องชอบน่ะ. เพราะยิ้มโคตรเหนื่อย
60ถ้านโยบายคุณจะขายปลีก ขายส่งขอให้แน่ชัดกับทำเล เพราะถ้าคุณจะขายปลีกแล้วไปเปิดใน โบเบ้ สำเพ้ง คุณก็เตรียมตัวตาย จงรู้ตัวก่อนคุณจะขายที่ไหนที่เหมาะกับคุณ
"เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม"

nattasan

  • **
  • 85
  • +0/-0
    • ดูรายละเอียด
กฏ1-100ข้อง่ายๆๆในการเปิดธุรกิจ ภาค#4 (61-80)

61ราคาใครคิดว่าไม่สำคัญ งั้นจะมีราคา1ตัว ส่ง 3ตัว มีป้าย SALE SALE ราคายิ้มโคตรมีผลกับการตัดสินใจซื้อ ดังนั้นอย่าตั้งมั่วๆๆ แต่ข้อให้มีเหตุผล ว่าราคานี้ใครซื้อ และทำไมต้องราคานี้เพราะงั้นคุณคงได้ขายกันเองแน่ๆๆ
62ราคา 99 199 299 มันมีประสิทธิภาพนะ. ลองเข้าร้านKFCซิ
63อย่าใช้นโยบาย sale พร่ำเพรื่อ เพราะ เมื่อคุณไม่ลด ลูกค้าอาจไม่ซื้อคุณเลย ขอให้ทุกครั้งที่เซลที่จุดประสงค์เพื่อ โละสินค้าตกรุ่น หรือ เพื่อเพิ่มยอดขาย หรือโจมตีคู่แข่ง หรือ..???
เพราะผมซื้อS&P แค่วันพุธ
64คุณอย่าไปกังวลกับคุณแข่งที่ขายราคาโดยใช้แต่กลยุทธ์ราคา. เพราะลคูกค้ามีหลายระดับ ถ้าคุณไปยึดมาก คุณจะลดเกรด คุณภาพ ภาพลักษณ์ตัวเองจนไม่มีค่า. แต่ขอให้มั่นใจว่าสินค้าคุณ ราคากับมูลค่าสอดคล้อง
65สินค้าที่คุณขาย จงมีทางเลือกให้ลุกค้า ถ้าคุนอยากได้ยอดขายเพิ่ม หรือจบการขายได้. คุณเคยเห็นคนขายน้ำปั่นรสเดียวไหม หรือ ร้านอาหารตามสั่งมีเมนุเดียว. ยกเว้นคุณจะชำนาญแบบข้าวมันไก่ปะตูน้ำ
66คุณเคยโทษดวงไหม ทำไหมร้านนั่นคนเข้าเยอะ ร้านนี้คนเข้าน้อย ดวงมีส่วนนะ แต่ผมว่า สินค้า การตกแต่ง ราคา คุณมีผลมากกว่าดวง
67ถ้าคุณจ้างพนักงานขายจงมั่นใจว่าคุณจ้างพนักงานขายไม่ใช่ พนักงานไล่แขก
68ถ้ามีลุกค้าเข้ามาพร้อมกันไม่มีทางที่คุณจะดูแลจบการขายลุกค้าได้พร้อมกัน. จงประเมินความน่าจะเป็น งั้นคุณอาจคนเต็มร้านแต่เดินออกหมด. (เห็นลูกค้าแขก ให้สนใจลูกค้าสิงคโปร์)
69ถ้าลูกค้า ยังไม่เข้ามาเหยียบในพื้นที่ร้าน ลูกค้า มีสิทธิ์จะจากไป จงปล่อยให้เค้าเข้ามาก่อน เพราะเค้าสนใจจึงเดินเข้ามา. เมื่อเข้ามาแล้วก้อย่าปล่อยออกไป เพราะเมื่อเค้าเดินออกไป แสดงว่า เงินส่วนนั้นอาจตกไปเป้นของคู่แข่งแล้ว
70 ถ้าคุณจะอยากจะขยายยอดขาย ก็มี4วิธีในการเพิ่มสินค้า เช่นขายเสื้อยืดผูชาย
70.1 แนวนอน ก็ขายเสื้อยืดคอกลม คอวี สกรีนลาย เสื้อพื้นแขนสั้น แขนยาว (วัตถุดิบตัวเดียวกัน)
70.2 แนวตั้ง เพิ่มเสื้อโปโล ชาย แจคเกต เสื้อฮู๊ด . (เพิ่ม ผลิตลาย ทางเลือก )
70.3 แนวเมทริก เช่น ขายหมวก ขายรองเท้า ขายแว่นตา กางเกง ( เพิ่มส่วนประกอบเกี่ยวเนื่อง)
70.4 แนวหลากหลาย เช่น ขายอะไรที่ไม่เกี่ยวกับตัวเดิมเลย เช่น ขาย ชุดราตรี ชุดว่ายน้ำ

71 ถ้าอ่านมาถึงข้อนี้ จะบอกว่า ข้อ29ไม่มี
72 คุนกลับไปหาข้อที่29
73 ถ้าคุณขายในแหล่งท่องเที่ยว ที่มีนักต่างชาติ แค่คุณพูด หนี่ฮาว จ๋ายเจี้ยน เซียเซี่ย คนจีนก็ซื้อคุณล่ะ
74 ถ้าคุณคิดว่าจะเปิดร้านอย่าไปคิดหาสินค้า นวตกรรมใหม่ๆๆเลย ถ้าคุณไม่ใช่ สตีฟ จ๊อบ. คุณแค่เพียงหาช่องว่างในสินค้าเดิมๆๆ แค่นี้ก็ทำเงินล่ะ เพราะไม่มีร้านใหนสมบูรณ์แบบ ร้านใหญ่ไม่สนใจ ลูกค้ารายย่อย ร้านค้าใหญ่ๆๆมักบริการช้า. ไม่ดูแลบริการ
75ถ้าคุณหาช่องว่างไม่เจอ คุณก็แค่ วันไหนคุณหาซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ไม่ตอบสนองความต้องการคุณ นั่นล่ะช่องว่างล่ะ
76ถ้ากลัวเปิดแล้วเจ๊ง ลองหาเพื่อนร่วมธุรกิจ เพราะ ความรู้ของแต่ละคนอาจหลากหลาย รวมถึงเงินทุน
77 ถ้าธุรกิจที่คุณเปิดร่วมลงทุน ถ้าขยายเติบโต จงแตกมันซะ ก่อนที่จะมาแตกแยก ส่วนใหญ่ช่วงแรกๆๆขาดทุน ก็ยอมๆๆกันไป พอมีกำไร ผลประโยชน์มักไม่ลงตัว ดังคำที่ว่า โตแล้วแตก แต่ถ้าใครไม่แตก ก็ทำต่อไป
78 ถ้าคุณมีเป้ายอดขายคุนอย่าพยายามได้ลด. แต่จงพยายามหาวิธีที่จะได้ถึงเป้าหลายๆๆทาง เพราะไม่งันยอดขายคุณจะลดลงเรื่อยๆๆ
79 ว่างๆๆหาหนังสือธุรกิจ การบริหาร การตลาดมาอ่านบ้าง มันจะเปิดมุมมองคุน เช่นRICH DAD POOR DAD รับรอง นารูโตะไม่มีสอนE S B I
80ธุรกิจที่ดีคุณต้องทำบันทึกยอดขาย รายวัน รายเดือน รายไตสมาส รายปี เทียบเดือนต่อเดือน ปีต่อปี งันคุณจะไม่รู้แนวโน้มตัวเอง
"เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม"

nattasan

  • **
  • 85
  • +0/-0
    • ดูรายละเอียด
กฎข้อ1-100ง่ายๆในการเปิดธุรกิจ ภาคสุดท้าย (81-100)

81สินค้ารอบตัวคุณ มันมีแผนการตลาดซ่อนอยู่หมดนั้นล่ะ เมื่อคุณซื้อหรือใช้บริการสินค้า คุณก็โดน มิสเตอร์การตลาดจัดการแล้ว ดังนั้นสินค้าที่คุณขาย จงใช้ตัวช่วยให้มันขายง่ายขึ้น โดย มิสเตอร์การตลาด
82ก่อนที่คุณคิดจะหาวิธีเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านการตลาด. คุณขายของให้ได้ก่อนดีไหม. มีเงินเข้าดีกว่าเงินออกโดยที่ไม่มีรายได้ คือพยายามขายของโดยใช้ต้นทุนให้น้อยสุด
83 ทำไม เฟรนฟาย KFC เล็กกว่า เหี่ยวกว่าของ Mc Donal. หรือเจ้าของไม่รู้ว่าลุกค้าบ่น เพราะ. ก็เหมือนกับว่าทำไมของบางร้านสวยไม่เท่ากับอีกร้าน หรือแพงกว่าอีกร้านก็ยังขายได้
84 ทำไมสินค้าบางตัวในห้างถึงขายต่ำกว่าราคาทุนเช่นน้ำตาล น้ำมันพืช. เพราะ คุนคงไม่ได้ขับรถไปเพียงแค่ซื้อน้ำตาล. ดังนั้นราคาสินค้าในร้านคุนทำไมบางตัวถึงแพง บางตัวถึงถูก คิดก่อนตั้งราคา ตั้งถูกชีวิตเปลี่ยน
85คุนอย่าขายราคาที่กำไรต่อหน่วยเท่ากันหมด เพราะบางที่คนอ้วนก็ยอมจ่ายแพงกว่าน่ะ
86พื้นที่ขายต่อร้านค้า แปรผันต่อกำไร ถ้าคุนขายสิ้นค้าชิ้นใหญ่กำไรน้อย คุนก็ต้องใช้พื้นที่ ก็อย่าไปจ่ายค่าเช่าต่อ ตรม ละ10,000เลย ถ้าคุนไม่ได้ขายทอง. คำนวน พทต่อตรม ต่อราคาด้วย
87 ผมขอเตือนถ้าคุนขายดี อย่าให้โดดเด่นมาก เพราะตลาดเสรี ไม่มีใครให้คุณฟันกำไรคนเดียวนานๆๆหรอก ยกเว้นเณรคำไม่ดังก็ฟันได้
88ปัจจัยการตลาด1อย่างอาจถูกต้อง แต่ไม่ถูกเวลา หรือต้องใช้การตลาดมากกว่า2 จงเลือกสรรพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
89ขอให้มั่นใจว่าคุณขายที่ประสิทธิภาพของสินค้า มิใช่เปลือกนอก เช่น บรรจุภาพ การตกแต่ง ราคา ของแถม เพราะ ลูกค้า จะซื้อคุณแค่ครั้งเดียว
90นโยบาย เปลี่ยน คืน แลก ขอให้ชัดเจน เพราะคุณอาจเสียลุกค้าไม่ใช่เพราะสินค้า แต่เป็น ทะเลาะตบตีกันทีหลัง

91ทำไมโรงหนังขายป๊อปคอร์น แพงๆๆแต่คนยิ้มซื้อ. บางที่ของคุณในร้าน ลูกค้าเข้ามาเพราะชอบอันนี้ แต่ก็เบลอๆๆซื้อของแพงด้วย. เห็นไหม ขายแบบไม่เบลอ แต่ลูกค้าเบลอ. จงใช้อารมณ์ร่วมของลูกค้า อย่าทำให้ลูกค้า ใช้สมอง
92ถ้าลุกค้ามาเป็นกลุ่ม ขอให้ได้ปวดหัวเลย. เพราะยิ้มจะถามกันไปมา ซื้อไหม ไอ้คนจะตั้งใจซื้อ ก็เลยไม่ได้ซื้อ สรุปเดินออกกันไปแบบงงๆๆ. ถ้าจบรายตัวได้ให้รีบจบ งันต้องใช้กฎหมู่
93ถ้าคุณขายของแล้วเหลือสตอกทำยังไง ก็ลดราคาเท่าทุน หรือขาดทุน ดังนั้นขอให้รู้เลยคุณไม่มีทางขายของทุกชิ้นได้หมดแน่ ดังนั้นราคาที่ตั้งจงบวกส่วนสำรองตรงนี้ไปด้วย. สุดท้ายภาระตกที่ผู้บริโภค
94การขายของถูก ผู้ได้รับผลประโยชน์คือลูกค้า ยิ่งขายถูก ลุกค้ายิ่งกำไร ซัพพายเออรวยเอารวยเอา คนผลิตก็ผลิตกันไป สุดท้ายคนขายโดนค่าเช่ากินตาย. เจ้าของต้องหา BREAK EVEN POINTเป็นนะ จุดคุ้มทุน
ดั่งคำว่าทำให้คนอื่นรวย
95เมื่อเปิดธุรกิจนานๆๆไป ลูกค้า จะเบื่อสินค้าเดิมๆๆ ลูกค้าจะบ่นว่ามีของใหม่ไหม พอเราบอกไม่มี ลูกค้าก็ไม่ซื้อ พอบอกมีใหม่ ลูกค้า บอกไม่ชอบก็ไม่ซื้อ. สรุป ยิ้มก็ไม่ซื้อ ดังนั่นคุณต้องหา CORE PRODUCTให้เจอ คือจุดที่ลูกค้ายังไงก็ต้องซื้อ เช่น ร้านข้าวร้านนี้ไม่อร่อยยังมีคนกิน รถเมลบริการห่วยก็ยังมีคนขึ้น.ดังนั้นเราต้องหาCORE PRODUCTให้เจอ ยิ้มรวย
"เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม"