PHAHONYOTHIN.COM

Phahonyothin Ads

กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 9
41
..คุณเคยยืนทะเลาะกับแฟนก่อนเข้าโรงหนัง
แล้วจบลงด้วยต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
แทนที่จะได้ดูหนังกันดีๆบ้างมั๊ย ?

คุณเคยพยยายามที่จะบอกกับแฟนคุณว่าคุณรู้สึกยังไง
แล้วพูดยังไงเขาก็ไม่เข้าใจกลับขึ้นเสียงกันไปใหญ่ 
จบลงที่ต่างคนต่างกระแทกหูโทรศัพท์กันไป
แล้วคุณก็กลับไปนอนร้องไห้บ้างมั๊ย?

คุณเคยทะเลาะเรื่องหนึ่งกับแฟน
แต่สุดท้ายเขากลับขุดทุกสิ่งทุกอย่างอีกร้อยแปดพันเรื่องขึ้นมา
จบลงเรื่องที่ทะเลาะกลับกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปเลยบ้างไหม ?

คุณเคยทะเลาะกับแฟนลั่นบ้าน 
จบลงด้วยประโยคว่า "เลิกกันไปเลยดีกว่า" มั๊ย ?

คุณเคยไปต่างจังหวัดกับแฟน
ทะเลาะกันใหญ่โต คุณน้อยใจสารพัด
จบลงด้วย คุณเก็บกระเป๋าจับรถกลับทันทีมั๊ย ?

เคยมั๊ย ..  ทั้งที่รักกันอยู่แต่ทำไมรู้สึก โหวงๆ.. อึดอัด..
บางคน.. แทบจะทะเลาะกัน.. ทุกวินาที..
ถ้าไม่รู้จักปรับเข้าหากัน.. สุดท้ายก็ต้องเลิกกันไปในที่สุด..

เวลาเจอคนดีๆสักคนก้าวเข้ามาในชีวิต..
คุณก็คงแอบฝัน.. ไว้เหมือนกัน
ขอให้เรากับเขารักกันไปนานๆ..
จะกี่เดือนกี่ปีผ่านไปไม่รู้แต่รักของเราจะยังเหมือนเดิม..

แน่ล่ะ.. มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก..
แต่ก็ไม่ได้ยากซะจนเป็นจริงไม่ได้
แค่เรารู้จักดูแลความรักดีๆ..
คุณก็จะมีความสุขกับความรักที่เป็นอยู่มากขึ้น

ยอมรับ.. ในความแตกต่าง
คนเราไม่มีใครคิดเหมือนกันได้ทุกอย่าง..
ในความเหมือนก็ต้องมีความแตกต่าง
เขาอาจคิดไม่เหมือนเรา เป็นเพราะเขามีลักษณะแตกต่างกัน
บางคนใช้ความคิดเป็นหลัก บางคนใช้ความรู้สึกตัดสิน
บางคนใช่สัญชาตญาน เพราะฉะนั้นทุกคนมีความแตกต่างกัน

เราต้องรู้จักเรียนรู้และยอมรับ ความแตกต่างตรงนี้ให้ได้
โดยเฉพาะยอมรับข้อเสียของกันและกันได้
ถ้าเรายอมรับได้เรื่องร้ายๆก็ไม่เกิด 
เพราะจริงๆแล้วคนเราไม่เปลี่ยนอยู่แล้ว
อย่าคาดหวังว่าเขาจะเปลี่ยนให้เราได้ 
ไม่งั้นจะทำให้เราเสียใจ ทุกข์ใจเสียเปล่า

ความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
เพราะทั้งสองคนมาจากต่างครอบครัวถูกเลี้ยงดูมาต่างกัน
แล้วถ้าเราเข้าใจเขา เขาเข้าใจเราก็ทำให้เราไม่ทะเลาะกัน
บางครั้งอาจจะมีเรื่องให้เราเซอร์ไพรส์ทั้งดีและร้าย
แต่ถ้าเรารู้ว่าทำไมเขาทำแบบนี้เป็นแบบนี้เพราะอะไร
รู้ที่มาที่ไปของพฤติกรรมของเขา เราก็จะไม่โกรธ..
และในขณะเดียวกันเขาเองก็ควรจะเข้าใจตัวเราให้มากๆด้วย
ต้องเป็นความเข้าใจที่เกิดจากคนสองคน

ต้องรู้จักสังคมของเขา และให้เขารู้จักสังคมของเรา
โดยเฉพาะคนสนิทที่อยู่แวดล้อมกัน
ไม่ว่าจะเป็นสังคมเพื่อน เพื่อนร่วมงาน ครอบครัว ควรทำความรู้จักไว้
ต่างคนต่างจะได้รู้ว่าสังคมของกันเป็นอย่างไง
ถ้าเราไม่สนใจเลย เราไม่รู้จักเพื่อนเขา
อาจทำให้ความรู้สึกระหว่างกันมันขาดๆหายๆไป
เวลาคุยกันเรื่องเพื่อนก็มักจะต่อกันไม่ค่อยติด
เวลาเขาไปไหนกับเพื่อนก็ไม่อยากให้เราไปด้วย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องติดตามกันไปทุกครั้ง ไม่งั้นจะทำให้เขาอึดอัดแทน

พอคบกันไปได้ไม่เท่าไหร่ เขาก็จะเริ่มอยากกลับไปเจอเพื่อน
ไม่ใช่ว่ารักคุณน้อยลง ยังซื่อสัตย์ ยังเป็นห่วงอยู่
แต่บางที เวลาอยู่ด้วยกันเยอะเกินไป เราไม่รู้จะทำอะไร
แล้วเราก็อยากกลับไปใช้ชีวิตอีกแบบบ้าง
เวลาที่เขาอยู่กับเพื่อนมันมีอีกแง่มุมนึงที่ไม่เหมือนอยู่กับคุณ
แล้วเวลาอยู่กับคุณก็ไม่เหมือนมุมที่อยู่กับเพื่อน
ทั้งสองมุมแทนกันไม่ได้ เขาจะมีเส้นแบ่งตรงนี้อยู่ คุณเองก็ควรมีเหมือนกัน
เพราะเวลาที่อยู่กับเพื่อน เราจะเป็นธรรมชายติมากๆ
บางเรื่องคุยกับเพื่อนแล้วเข้าใจได้มากกว่า
อย่าไปน้อยใจเลยเวลาที่... เขาอยู่กับเพื่อน

แต่ละคนต้องมีอิสระระหว่างกัน... ต่างฝ่ายต่างต้องมีสเปซส่วนตัว
เพราะคนเรามีความสนใจหลากหลาย
ถ้าเราไม่ปล่อยให้เขาเป็นอิสระเวลาอยู่กันไปนานๆ
ก็จะทำให้ชีวิตเริ่มเบื่อ  เซ็ง และอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ
เราต้องรู้จักหาความพึงพอใจในชีวิตของตัวเองด้วย
อย่าไปคาดหวังว่าอีกคนบจะมาเติมเต็มส่วนที่ขาดให้กับเรา
คิดแค่ว่าเรามีเขาอีกคนเป็นเพื่อน เพื่อนที่รักกัน ดูแลกันก็พอแล้ว
อย่างอื่นถ้าเราอยากได้ อยากเป็นอะไร
ก็ต้องหาเอง ไม่งั้นเราก็จะคาดหวัง และอาจทำให้เราเสียใจ

เริ่มต้นจากตัวเองก่อน..  มองเห็นข้อบกพร่องของตัวเอง 
และยอมรับข้อบกพร่องของตัวเราเอง
ต้องรู้ว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน
ถ้าเราเป็นหงุดหงิดง่าย บางครั้งถ้าเขาทำอะไรไม่เป็นไปตามที่เราคิด
ก็จะทำให้หงุดหงิดใจ มานั่งนึกว่าทำไม เขาไม่ได้อย่างใจ ทำไมเขาไม่เข้าใจ

ถ้าเราเข้าใจว่าตัวเองเป็นแบบนั้น
เราต้องยอมรับว่าบางครั้งเราก็ทำอะไรแย่ๆได้ 
เขาเองก็เป็นแบบนั้นได้เหมือนกัน
ถ้าเขาอภัยให้เราได้แบบไม่มีเงื่อนไข เราอภัยให้เขาบ้างได้หรือเปล่า?

อย่างถ้าเราเป็นคนขี้ระแวง  บางครั้งเราก็ไปแอบฟังเขาคุยโทรศัพท์
ถ้าเรามีสติ  เราจะเริ่มรู้สึกว่าเราระแวงไปเอง
บางทีเราเอาเรื่องมาปะติดปะต่อแล้วก็คิดไปเอง
ทั้งๆที่ในเป็นจริงอาจจะไม่มีอะไร 
แต่ความระแวงนั่นแหละ  จะทำให้เกิดเหตุการ์ณร้ายๆตามมาได้..
ความไว้ใจกับความโง่..  มันอยู่ใกล้กันก็จริง..
แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะแยกกันไม่ออก

เมื่อใดที่คุณโกรธ..
คุณต้องแลกมันกับเวลาที่คุณจะได้อยู่ด้วยกันกับเขา..อย่างมีความสุข
แต่เมื่อใดที่คุณให้อภัย.... คุณจะได้คนใกล้ชิดของคุณกลับมา

ต้องไม่เอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องส่วนตัว
ไม่เอาเรื่องเครียดๆมาโยนใส่กัน..
เวลาเจอกันก็จะเล่าแต่สิ่งดีๆให้เขาฟัง
หรืออาจปรึกษาเขาว่าควรทำอย่าไงดี
ไม่ใช่เจอกันก็บ่นๆๆๆ ใส่เขา  จะทำให้เขารู้สึกว่าเจอทีไรก็มีแต่เรื่องเครียดๆ
คุยกันเรื่องสนุกๆ จะทำให้เขาสุขใจ สบายใจ
วิธีนี้จะทำให้เขาอยากเจอเรา  อยากมาหาเรา 
เพราะรู้ว่าอยู่กับเราแล้วมีความสุข  เขาก็ไม่อยากจะไปไหน
ให้คิดตลอดว่าชีวิตมันสั้น... ทำไมเราไม่ใช้ชีวิตที่เหลือให้มีความสุข

รู้จักดูจังหวะ  ดูสถานการ์ณ  ดูอารมณ์ของอีกฝ่ายให้ดี
อย่างถ้าเขาทำงานมาเครียดๆ แล้วเราเองก็มีเรื่องเครียดอยู่
เราก็ต้องดูอารมณ์เขาหน่อย 
อย่าเพิ่งไปคุยเรื่องเครียดๆกับเขา
ถ้าเขาร้อนมา เราก็ต้องเย็นเข้าไว้
เอาใจเขาหน่อย  ดูก่อนว่าเขาหิว เหนื่อย เครียดหรือเปล่า
ถ้าใช่ ทำอะไร  หาอะไรที่เขาชอบ  พอเขาอารมณ์ดีเราค่อยคุย
กับเขาแต่ถ้าวันนั้นเขาปกติ  ก็ต้องดูอารมณ์ว่าควรจะพูดควรจะฟังตอนไหน

รู้จักให้อภัย
เพราะหลังจากอยู่ด้วยกันแล้ว..
บางครั้งต่างฝ่ายต่างทำผิด  ต่างฝ่ายต่างก็ต้องรู้จักให้อภัยกัน
อย่ามองในจุดเสียของเขาให้มาก..  พยายามมองแต่แง่ดีๆ..
ใช้เหตุผลยอมรับที่เขาเป็นสัก 70 เปอร์เซ็นต์
แล้วเวลาที่เขาทำผิด อย่ามองว่าเป็นความผิดของเขาคนเดียว
บางทีเราอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เขาทำผิดได้เหมือนกัน
เราต้องมีเหตุผล และเขาเองก็ต้องดีจริงๆเหมือนกัน เราถึงให้อภัยเขาได้..
บางครั้งก็ต้องรู้จักยอมๆกันบ้าง

เวลามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็ไม่ใช่ว่าต้องตัดสินปัญหาแบบคนละครึ่งทางเป๊ะๆ
บางครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะกันก็ต้องยอมๆกันบ้าง
แลกกับความสบายใจ บางครั้งเรายอม บางครั้งเขายอมจะได้ไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกัน

เอาใจเขามาใส่ใจเรา
หลายๆเรื่องเกิดจากคนสองคน ทั้งเรื่องงาน เพื่อน ครอบครัว
เราต้องมองว่าถ้าเราทำแบบนั้นเขารู้สึกอย่างไง
ถ้าเราทำอะไรไม่ดีออกไป  เราก็ต้องเข้าใจว่าทำไมเขาถึงโกธร..
ไม่ได้มองตัวเองเป็นศูนย์กลางไปซะทุกอย่าง...

ต้องยอมรับธรรมชาติของอีกฝ่ายด้วยหัวใจบริสุทธิ์และปล่อยวาง
มองหน้าเขาอย่างมีเมตตา พยายามทำร้อนให้กลายเป็นเย็น
เรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก
เมื่อเปิดใจยอมรับก็จะเข้าใจ
เมื่อเข้าใจ  แม้เขาจะไม่ได้ดั่งใจ ก็คิดซะว่าเราเองก็คงมีเรื่องไม่ได้ดั่งใจเขาเช่นกัน

ดูแลความรักของคุณกับเขา..
เพราะอย่างน้อย.. คุณก็ยังโชคดี..  ที่มีโอกาสได้เจอเขา..แล้ว
เพราะ..คนบางคน..
ไม่มีแม้แต่โอกาส.. จะได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่รัก....

ที่มา : http://pantip.com/topic/33874621

ขออนุญาตแชร์บทความดีๆ จากคุณ letemps จาก pantip.com ครับ

ขอบคุณครับ
42
ขออนุญาตแชร์บทความดีๆ จากคุณ zsevens ครับ

เคยไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส หรือแม้แต่อเมริกา ผมว่า SMEs ของเขาจำนวนมากไม่ได้อยู่ในรูปแบบของธุรกิจ "ซื้อมาขายไป" นะครับ ส่วนใหญ่ที่เจอก็คือพวกที่เป็นช่างในโรงงาน คิดค้นโน่นนี่ ประดิษฐ์ของออกมาขาย แต่ว่ามันต้องใช้สมองซักหน่อยว่าจะต้องผลิตทำอย่างไร อาจจะต้องไปโรงกลึงเล็กๆ จ้างทำโมลด์ ทำโครง ค่อยคิดค่อยเป็นค่อยไป ธุรกิจ SME ของเขาจำนวนมากก็เกิดจากโรงกลึงและค่อยๆคิดค้นต่อยอดไปเรื่อยๆ

ยิ่งถ้ามามองธุรกิจในโลกนี้ที่ประสบความสำเร็จ ทุกแห่งก็เริ่มมาจาก SME ด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่ว่าเขาเริ่มจากพื้นฐานความรู้จริงๆ ยิ่งถ้าได้ดูประวัติ APPLE แล้ว จริงอยู่ที่เขาเริ่มจากโรงรถ แต่ไม่ใช่ว่าเขาเปิดโรงรถขายคอมพิวเตอร์ แต่เขาเอาโรงรถมาใช้ผลิตคอมพิวเตอร์เพื่อขายต่างหาก อย่างที่เรารู้ว่า Google ก็เกิดมาจากโรงรถ แต่ไม่ใช่ว่าคุณไปซื้อซอฟท์แวร์หรือจ้างคนมาเขียนซอฟท์แวร์ แต่เกิดจากการพัฒนา Algorithm ขึ้นมา เขาพัฒนามาจากพื้นฐาน ไม่ใช่พัฒนามาจากการจ้างคนอื่นทำ เมื่อก่อนเคยเจอวิศวะกรโรงงาน Bosch ที่เยอรมัน เวลาว่างๆ จากการทำงานก็ประดิษฐ์เครื่องชงกาแฟบ้าง อุปกรณ์เครื่องครัวออกมาขายบ้างในละแวกนั้น

แต่ของไทยก็ไม่มีอะไรมาก เดินไปเจอโน่นนี่ ก็ซื้อมาขายต่อ การพัฒนาของตนเองไม่มี การก็อปปี้จึงมากมายหลากหลาย คิดอะไรไม่ออกก็เปิดร้านอาหาร (ทำอร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง) เปิดร้านกาแฟ เปิดร้านเค้ก ร้านขายเสื้อผ้า (ไปรับเขามาขายในตลาด) และพอทำแบบนี้กันหมดก็ต้องเริ่มแข่งกันที่ราคา การปรับตัวก็เริ่มจะไม่เป็น เพราะตนเองก็ไม่ได้มีความรู้พื้นฐานเลย เนื่องจากซื้อมาขายไปอย่างเดียว ยิ่งพอตลาดระดับล่างเริ่มวาย จะไปพัฒนาสินค้าเพื่อตลาดระดับบนก็ทำไม่เป็นสิ จะไปพัฒนาอย่างไรในเมื่อไม่มีความรู้เลย ในหลายครั้งผมก็อยากจะรู้ว่า น้องๆที่เปิดร้านเค้ก ร้านกาแฟกันเป็นดอกเห็ด รู้จัดวัสดุที่เอามาผลิตมากน้อยแค่ไหน หรือว่าใช้วิธีเปิด Youtube Pantip แล้วก็ก็อปปี้สูตรมาผลิตขาย ไม่เคยรู้จักรสชาติและความเป็นมาของสิ่งที่ตนเองก็อปปี้

ผมเห็นคนเริ่มทำธุรกิจแบบมักง่ายค่อนข้างเยอะมาก บ่นว่าเบื่อการเป็นลูกจ้าง อยากจะออกมาขายก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ กาแฟ ร้านเค้ก คิดแค่ว่ารายได้ดีกว่าเป็นลูกจ้างโดนจิกหัวใช้ บางคนเปิดมาก็ไม่เคยจะอยู่เฝ้าร้าน คิดแค่ว่าเป็นเถ้าแก่แล้วอิสระ จะไปไหนมาไหนก็ได้ให้ลูกน้องทำ ผมก็อยากจะบอกว่าคนทำแบบนั้นได้คือคนที่เกษียณแล้ว เถ้าแก่ไม่ใช่ผู้ที่เกษียณแล้วดังนั้นยังคงต้องทำงานทุกวันอยู่นะครับ

เห็นคนบ่นเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องค้าขาย หลายกระทู้โดยที่ไม่ได้ดูตัวเองเลย จะพัฒนาแก้ไขอะไรก็ทำไม่เป็น ก็เลยขอคิดเห็นบ้าง

ขอบคุณครับ

ที่มา : http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,371042.0.html
43
โลตัส ตัส นัด กู้ดกีด จู้ดจี้ด แม๊กกลุ้ม เจ้าจอมวอแว ฯลฯ ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ กับความทรงจำสุดพิเศษที่ไม่มีวันลืม

สวัสดีครับ

"โลตัส"สุนัขพันธุ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์ น้ำหนักขึ้นชกประมาณ 40 ก.ก.

โลตัส = ดอกบัว / แต่ตัสตัวดำสนิทเลย ดอกบัวสีขาว งั้นกลับกันของสีขาวก็ดำ ชื่อโลตัสละกันนะ 555 วันแรกที่เราได้เจอกัน

ตอนเด็กๆ ขาหลังเดินไม่ค่อยได้ครับ เพราะบ้านที่พี่สาวผมไปเอาตัสมาเค้าเลี้ยงบนกระเบื้องครับ ก็เลยทำให้ขาหลังตัสแบะๆครับ ต้องพามาฝึกเดินบนปูนสากๆ หน่อยอยู่นานเชียวครับ ถึงจะเดินปกติครับ

เดี๋ยวผมจะมาเขียนให้ต่อนะครับ

ตัสเริ่มเป็นประมาณวันที่ 20 มิถุนายน 2558 ที่เดินไม่ค่อยได้แต่พอยันตัวลุกได้บ้าง แต่ที่ผมงงคือคืนวันที่ 19 มิถุนายน 2558 ยังวิ่งไล่หมาที่เดินผ่านหน้าบ้านอยู่เลย พอตัสตื่นเช้ามาก็ค่อยๆ แย่ลง ยังดีที่กินข้าวได้ทุกวันแต่น้อยลง

วันนี้ 23 มิถุนายน 2558
วันนี้ตัสอ่อนแรงกว่า 3 วันที่ผ่านมามาก แทบจะลุกไม่ได้เลย กินข้าวได้แต่ต้องป้อน ตอนพาไปเดินก็ล้ม ผมอุ้มน้องแทบไม่ไหว สงสารตัสจังครับ น้ำตาจะไหล รักตัสนะ

วันนี้ 24 มิถุนายน 2558
วันนี้แย่กว่าเดิมทุกวัน ลุกได้แต่ตอนเช้า ไม่ยอมเดินไป ฉี่-อึ เลย กินข้าวได้แต่ต้องป้อน ตอนเย็นไม่ลุกไม่ยันไม่อะไรทั้งนั้นเลย เส้าครับ รักตัสนะ

วันนี้ 25 มิถุนายน 2558
วันนี้ดีหน่อยพอพาตัสเดินตอนกลางวันตัสก็เดิน ฉี่-อึ ด้วยดีหน่อยครับวันนี้ แล้วก็เข้าไปนอนในบ้านตัสเหมือนเดิม วันนี้ได้เรียนรู้ว่าเวลาตัสร้อง อี๊ดๆ แสดงว่ามันต้องการอะไรบางอย่าง เช่น เข้าห้องน้ำ ท่านอนไม่สบาย กินข้าวได้แต่ต้องป้อน พอตอนเย็นพาตัสไปเดินอีกรอบ วันนี้พิเศษเลยเดินด้วยฉี่ด้วย ค่อยโอเคหน่อยครับวันนี้ รักตัสนะ

วันนี้ 26 มิถุนายน 2558
คืนวันที่ 25 จะร้องบ่อยมาก แต่โดยรวมวันนี้เหมือนวันที่ 25 เลยครับ ก็ถือว่าโอเคครับ

วันนี้ 27 มิถุนายน 2558
วันนี้เริ่มยกหัวได้มากขึ้น ทุกๆคนก็มีความหวังครับ ว่าตัสอาจจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง ต้องดูกันต่อไปครับ

วันนี้ 28 มิถุนายน 2558
วันนี้นอนดิ้นมากครับ ดิ้นจนตัวย้ายที่เลย แต่ก็ร้องอี๊ดๆ บ่อยครับ ขยับตัวให้ก็ยังร้อง เฮ้อไม่รู้เป็นอะไรป่าว รอดูอาการต่อไปครับ

วันนี้ 29 มิถุนายน 2558
วันนี้ทุกๆอย่างยังคงเหมือนเมื่อวาน มีอย่างเดียวที่ผมเพิ่มขึ้นมาคือลองใส่ที่จูงแบบสวมขาหน้าเพื่อพยุงตัสเวลาเดินไป ฉี่-อึ ซึ้งผลที่ออกมาก็ดูโอเคครับ

วันนี้ 30 มิถุนายน 2558
วันนี้ปกติครับทุกๆ อย่างเหมือนเดิมครับ

วันนี้ 1 กรกฎาคม 2558
เมื่อคืนร้องบ่อยมากเลย แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากครับ ตอนพาเดินตอนเช้าเหมือนจะเริ่มวิ่งเยาะๆได้ เวลาขอมือก็ให้มือได้หลังจากที่ไม่ให้มือมาตั้งแต่ไม่สบายครับ

วันนี้ 2 กรกฎาคม 2558
วันนี้พิเศษมากครับทุกอย่างปกติครับจนตอนเย็นตัสลุกเดินเองได้ถึงแม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ตีใจมากครับ ทำท่าขุดดินด้วย ผมพนันกับตัสว่าถ้าเดินได้เมื่อไหร่จะทำไก่ย่างให้กินตัวนึงซึ่งตัสก็ได้ไปเรียบร้อยครับ 555 แต่ตอนนอนก็ต้องอุ้มมาบนที่นอนครับ โดยรวมถือว่าดีมากครับ

วันนี้ 3 กรกฎาคม 2558
หลังจากอุ้มลงมาจากที่นอน พาไปเดิน แล้วก็กลับมานอนในบ้าน ซักพักก็ลุกขึ้นแล้วเดินนิดหน่อยครับ แต่ก็ยังไม่ได้เยอะและช่วยตัวเองไม่ได้มากครับ ตอนกลางวันผมทำหมูย่างให้กิน พอตอนเย็นพาเดินกลับรู้ว่าตั้งแต่วันนี้ต้องกินอาหารอ่อนๆเพราะตัสท้องเสียครับ บางทีเพราะอายุมากทำให้กินของอร่อยๆไม่ได้ พอเดินกลับมามีลุกขึ้นเห่ามาหน้าบ้านด้วย วันนี้ถือว่าค่อนข้างแอคทีฟที่สุดตั้งแต่ไม่สบายมาละครับ

วันนี้ 4 กรกฎาคม 2558
วันนี้รู้สึกว่าค่อนข้างอ่อนแรงครับ ตอนเช้าไม่ลุกเดินเอง แต่ยังร้องอี๊ดๆ เรื่อยๆ บ้างบางครั้ง ตอนเย็นก็ไม่ลุกเดินเองครับ วันนี้ถือว่าไม่ค่อยดีในรอ 2-3 วันที่ผ่านมาครับ ต้องดูต่อไปครับ

วันนี้ 5 กรกฎาคม 2558
วันนี้ตอนเช้าก็ยังไม่ลุกเองครับต้องพยุงยืนครับถึงจะยืนแล้วก็เดินเองครับ แต่วันนี้พิเศษตรงตอนดึกครับ ตอนดึกร้องเยอะเป็นพิเศษครับวันนี้ ผมก็รอดูอาการ แต่สุดท้ายลุกยืนเอง แล้ววิ่งไปเห่าหมาหน้าบ้านด้วยครับ ตัสนี่ตลกจิงๆครับ

วันนี้ 6 กรกฎาคม 2558
วันนี้ตอนเช้าลุกเองไปไหนเองพอได้ครับ ตอนเย็นต้องพยุงลุกนิดหน่อยครับ แต่หลังจากนั้นก็ นอน-ลุก เองได้ครับ วันนี้ถือว่าค่อนข้างพิเศษจากหลายๆ วันที่ผ่านมาครับ

วันนี้ 7 กรกฎาคม 2558
วันนี้ไม่ลุกเองเลยครับทั้งตอน เช้า-เย็น ต้องพยุงลุกตลอดครับ ตลกดีนะครับหมามีอายุก็ขึ้นๆลงๆ

ช่วงนี้ทุกอย่างก็ทรงๆ ครับ ลุกเองบ้าง ต้องพยุงบ้าง แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากครับ ถ้ายังไงผมจะมาอัพเดทให้อีกทีครับ

วันนี้ 11 กรกฎาคม 2558
ตัสไม่ลุกเองมา 2-3 วันละครับ ก็ยังดีที่ช่วยลุกแล้วยังเดินเองได้ครับ แต่มีเรื่องไม่ดีตรงที่เกิดแผลกดทับ 2-3 ที่ครับ แต่ที่ที่ใหญ่คือบริเวณหน้าอกครับทำให้เวลาอุ้มช่วยลุกตัสจะร้องตลอดครับคงเพราะเจ็บครับ เฮ้อ ผมเครียดไปหมดเลยครับ แต่ก็ต้องสู้ต่อไปครับ

วันนี้ 12 กรกฎาคม 2558
วันนี้ตัสไม่ค่อยดีเลยครับ ตอนเช้ายกหัวไม่ขึ้นเลยครับ เวลาผมจับยกหัวนี่เรียกว่าไม่มีแรงต้านเหมือนเมื่อก่อนเลยครับ แถมที่หน้าอกที่เป็นแผลกดทับ ดันเป็นฝีแล้วแตกครับ ผมนี่ทำอะไรไม่ถูกเลยครับ จะแย่เอา เฮ้อ... แต่ละวันอาการไม่ค่อยดีเลยครับ วันนี้เดินก็ไม่ค่อยไหวครับ ต้องดูต่อไปครับ

วันนี้ 13 กรกฎาคม 2558
วันนี้แย่เลยครับฝีที่หน้าอกอักเสบมากครับ แต่ตัสก็ยังทนเดินตอนเช้าครับ ผมก็รอดูตอนกลางวันว่าจะดีขึ้นมั้ยครับ แต่เป็นความคิดที่ผิดพลาดมากครับ ตอนเย็นผมพาไปหาหมอที่เกษตรครับ ทางโรงบาลก็จัดแจงล้างแผล ทำแผล ฉีดยา ตัสโดนฉีดไป 3 เข็มครับ ผมยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ครับ เฮ้อ... ถ้าสุนัขหรือแมวของเพื่อนๆ เป็นฝีรีบพาไปรักษานะครับ อย่ารอแบบผม ถ้าช้าไป เชื้อโรงเข้ากระแสเลือดก็จะแย่มากๆครับ วันนี้ตัสอ่อนเพลียที่สุดละครับ แต่ก็ต้องไปอีกทั้งอาทิดนี้ครับ ต้องล้างแผลทุกวัน ต้องอุ้มกันทุกวันครับ ดูเลกันต่อไปครับ

...

วันนี้ 2 สิงหาคม 2558
ผ่านไปนานเลยครับ ไม่ได้เขียนเลย 555 ตอนนี้ตัสดูดีขึ้นเยอะเลยครับ ลุกเองได้บ้างไม่ได้บ้างครับ แต่แผลจากฝีที่อกก็ยังไม่หายครับ ผมคิดว่าการที่ตัสไม่เดินน่าจะมาจากแผลส่วนนึก จากอายุส่วนนึงครับ แล้วก็แผลฝีที่อกครับผมคิดว่ามาจากช่วงเวลาที่สุตว์อ่อนเอครับจะเป็นได้ครับ ไม่รู้เหมือนกันนะครับผมคิดเองครับ เพราะหลังจากที่ฝีแตกพาไปรักษาตัสก็ยังนอนท่าเดิมครับ แต่ก็ไม่มีฝีขึ้นอีกนะครับ ดูรวมๆ ถือว่าดีขึ้นมากครับ

วันนี้ 24 สิงหาคม 2558
ผ่านไปอีก 22 วันครับ แผลเริ่มสนิทละครับ เหลือเพียงจุดเล็กๆครับ แต่ผมกับพี่สาวก็ทำแผลให้ทุกวันนะครับ เพราะกลัวว่าถ้าปล่อยไปจากแผลเล็กๆเนี่ยครับจะกลายเป็นใหญ่ 555 ตัสน้ำหนักลดลงเยอะเลยครับจากเกือบ 40 โลครับตอนนี้เหลือประมาณ 35 โลครับผอมลงไปเลยละครับ แล้วก็มีอีกอย่างนึงครับที่ตอนแรกน่าห่วงครับ ซักเมื่ออาทิดที่แล้วครับ น่าจะวันที่ 17 ครับอยู่ดีๆเปลือกตาล่างก็ห้อยลงมาครับ ผมก็ตกใจพาไปหาหมอปรากฏว่าอาการมาจากอายุมันครับ คุณหมอบอกสุนัขอายุเยอะเส้นเอ็นเส้นประสาทก็จะค่อยๆเสื่อมครับ หลังจากนั้นก็ให้ยาหยอดตามาครับ 2 ตัว ตัวนึงฆ่าเชื้อครับ อีกตัวเป็นยาช่วยหล่อลืนลูกตาครับ ซื่งหลังจากหยอดไปประมาณ 1 อาทิดอาการก็ค่อยๆดีขึ้นครับ แต่ก็ไม่เหมือนเดิมน่ะครับ สนุกเลยครับกับการดูเลตัส เดี๋ยวนี้ตัสเริ่มลุกไปเห่าหมานอกบ้านได้ครับ ดูเลกันต่อไปครับ

วันนี้ 26 พฤศจิกายน 2558
สวัสดีครับ ผ่านไปหลายเดือนเลยครับไม่ได้มาอัเพเดทอาการโลตัสเลยครับ ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาตัสทำทุกอย่างได้ปกติครับ ลุกเอง ไปเข้าห้องน้ำเอง กินข้าวได้ปกติครับ แต่มีอย่างนึงเปลี่ยนไปครับ เมื่อก่อนตัสจะนอนหน้าบ้านซึ่งต้องขึ้นบันไดมา 2 ขั้นครับหลังจากหายก็ไม่เคยขึ้นมานอนเองเลยครับ ต้องอุ้มขึ้นทาตลอดแต่ลงเองได้ครับ ช่วงแรกๆอุ้มขึ้นมายังอยู่ครับ แต่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาทำยังไงก็ไม่อยู่ครับ จะไปนอนในห้องน้ำนอกบ้านอย่างเดียวเลยครับ อุ้มขึ้นมาพอนอนได้พักเดียวก็ลงไปเองครับ บางทีก็มีเดินวนๆ วนไปวนมาเหมือนสับสนอะไรบางอย่างครับ แล้วก็ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาครับตัสเริ่มไม่ค่อยลุก ไม่กินข้าว บางทีกินได้ก็น้อยมากครับ มีฉี่เล็ดบ้างเล็กน้อยครับ ผมก็พยายามอยากให้เดินอยากให้ออกแรงบ้างก็ต้องพยุงขึ้นเดินครับ เฮ้อ... น่าสงสารครับ บางทีถ้าตัสพูดได้ก็คงดีครับ

วันนี้ 29 พฤศจิกายน 2558
วันนี้ไม่ดีเอามากๆเลยครับ เรียกว่าไม่มีแรงเลยครับ ไม่อื๊อไม่อือเลยครับ ช่วงหลังๆ มาตัสชอบฟักทองครับ ก็เลยให้กินแต่ฟักทอง กินน้ำนิดหน่อยครับ พาไปฉี่หน้าบ้านก็ฉี่ได้ครับยังยืนค้ำได้ แต่พอจะพาไปอึอีกที่นี่นอนลงมาเลยครับ ไม่มีแรงยังเลย ผมก็พยายามประคองก็ไม่ได้ผลครับ ต้องอุ้มกลับมานอนที่บ้านเหมือนเดิมครับ น่าสงสารครับ สายตานี่เฮ้อ สายตาดูอ่อนแรงไม่มีพลังเลยครับ อีกอย่างครับเมื่อก่อนไม่ว่าจะไม่สบาย จะเจ็บแค่ไหน เวลาผมอุ้มจะดิ้นเสมอครับ ผิดกับตอนนี้ครับ

วันนี้ 9 ธันวาคม 2558
สวัสดีครับ ทุกวันที่ผ่านมาอาการตัสก็เปลี่ยนแปลงเรื่อยๆครับ มีขึ้น มีลง ตลอดครับ มีวันนี้ครับที่นอนอึ นอนฉี่เลยครับ ปกติจะเรียกครับแล้วผมจะพาไป อึ-ฉี่ ที่ที่ของตัสครับ ช่วงหลังมาขาไม่มีช่วยยันยืนเลยครับ ปล่อยเลยครับอุ้มมาล้มอย่างเดียวเลยครับ เฮ้อ... น่าสงสารครับ

วันนี้ 14 ธันวาคม 2558
วันนี้วันเกิดแม่ผมครับ ตัสเหมือนเดิมครับ ตอนนี้นอนอย่างเดียวครับ อึ-ฉี่ บนผ้าที่ปูไว้ให้ครับ แล้วผมก็ใช้วิธีเช็ดตัวเอาครับ วันนี้ทุกอย่างปกติครับ กลางวันสั่งพิซซ่ามาฉลองวันเกิดให้แม่ครับ พอตอนเย็นช่วงประมาณ 5 โมงก็มีข่าวร้ายครับ คุณยายผมที่ป่วยมานานเสียครับ เป็นธรรมดาครับความเส้ามาเยือนอีกครั้งครับ สงสารแม่ครับ แม่ร้องไห้ไม่หยุดเลยครับ ผมเองก็เสียใจครับไม่น่าเป็นวันเกิดแม่ผมเลยครับ T_T แล้วแม่กำลังจะเดินทางไปหายายวันพรุ่งนี้ด้วยครับ พูดไม่ออกเลยครับ ...

วันนี้ 15 ธันวาคม 2558
วันนี้ พ่อกับแม่ ผมเดินทางไปเชียงรายไปหายายแต่เช้าครับ ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาตัสไม่ค่อยกินข้าวเลยครับ กินแต่น้ำครับ ดูตัสอ่อนเพลียมากครับ ...

วันนี้ 6 มกราคม 2559
ผ่านมาหลายวันเลยครับ ขอโทษครับที่ไม่ได้มาอัพเดทอาการตัสเลยครับ ตอนนี้ตัสเดินไม่ได้แล้วครับ นอนบน Pet Pee Pad ครับ ต้องบอกว่า Pet Pee Pad นี่ค่อนข้างโอเคมากครับถือว่าช่วยให้ตัสไม่เป็นแผลกดทับครับ แต่เรื่องการดูดซับฉี่อาจจะไม่ได้ช่วยมากครับ Pet Pee Pad จะซับฉี่ไว้เหมือนไม่ให้เลอะครับ แต่ตรงที่ตัสนอนทับมันจะเปียกครับ ซึงหลังๆ ไม่ค่อยดีครับ ตรงที่เปียกเหมือนจะเป็นแผลครับ ก็ต้องเปลี่ยนแผนกันครับ โดยไปซื้อผ้าอานามัยผู้หญิงมาซับฉี่ก่อนครับ ซึงผลออกมาโอเคครับ แต่เวลาตัสฉี่เยอะๆนี่เอาไม่อยู่ครับ ตอนนี้ว่าจะต้องซื้อแพมเพิส มาช่วยละครับ แต่ช่วงหลังๆ นี่ตัสเริ่มไม่ค่อยฉี่ครับ เฮ็อ สุนัขแก่นี่สุดๆเลยครับ มีช่วงนึงไม่อึมา 5 วันครับผมก็กังวลจะแย่ครับสุดท้ายก็ยอมอึครับ ตอนนี้กลับมาเป็นที่ฉี่แทนครับ ต้องดูอาการต่อไปครับ

วันนี้ 10 กุมภาพันธ์ 2559
ผ่านมาหลายวันครับ ตอนนี้ตัสนอนอย่างเดียวครับ ขยับได้แต่แขนครับ ขาแข็งไปเลยครับ ร้องบ่อยมากๆครับ กลัวเพื่อนบ้านเค้าจะรําคาญเหมือนกันครับ ต้องกลับตัวทุกวันครับ เป็นแผลกดทับตรงสะโพกทั้ง 2 ข้างเลยครับ พูดถึงแผลกดทับครับตอนแรกผมไม่เห็นเลยครับว่าเป็นเพราะขนตัสมาปิดครับ รู้ว่าเป็นแผลแต่ไม่กล้าเปิดครับ ซึ่งผมคิดผิดมากๆเลยครับ สุดท้ายผมตัดสินใจเปิดแผลก็เรียกว่าใหญ่มากแล้วครับ พอเจอแผลด้านนึงซักพักอีกด้านนึงก็มาครับ พอเจอแผลสิ่งที่ต้องทำตอนแรกคือโกนขนรอบแผลครับเพื่อรักษาความสะอาดครับ ผมซื้อแบตเตอเลี่ยนมาอันนึง แล้วก็ซื้อมีดโกนคิ้วมาโกนครับหลังจากนั้นก็ล้างแผลเองครับ โดยใช้น้ำสะอาดล้างครับ ช่วงแรกๆ อาจจะใช้น้ำเกลือก่อนครับ พอแผลดีขึ้นค่อยใช้น้ำธรรมดาครับล้างครับ หลังจากล้างแผลเสร็จก็ใช้ผ้าก๊อซ+ไดร์เป่าผม เช็ดแผลแล้วเป่าให้แห้งครับ ตามด้วยใส่ยารักษาแผลติดเชื้อครับ ซึ่งนี่คือชื่อยาที่ผมใช้ครับโดยใช้ตัวไหนก็ได้ครับที่หาซื้อได้ครับ POLYCIN OINTMENT 20 grams, Skinfect Gentamicin sulfate 15 grams หรือ Garamycin GENTAMICIN 15 grams ครับ POLYCIN หาซื้อไม่ได้เลยครับมีที่ ร.พ.สัตว์ เท่านั้นครับ ตามด้วยเจลสร้างเนื้อ Solcoseryl Jelly 10% ครับ แล้วก็ปิดแผลด้วยผ้าอนามัยครับเพื่อซับน้ำเหลืองที่แผลครับ หลังจากทำแผลซักพักแผลก็ดีขึ้นเรื่อยๆครับ ก็ยังดีครับ ผมเคยใช้ยา INTRASITE GEL กล่องสีส้ม กล่องละประมาณ 250 บาท ที่ใช้กับแผลกดทับของคนปรากฏแผลไม่ดีเลยครับเลยต้องหยุดใช้ไปครับ ส่วนขนตรงขาตรงท้องที่โดนฉี่บ่อยๆ ก็ควรโกนออกครับเพื่อรักษาความสะอาดครับ ส่วนอย่างอื่นก็ดูตามอาการครับ หลังจากที่ผมดูเลตัสมานี่รู้เลยครับว่าเหนื่อยครับ 555 การเลี้ยงสุนัขสักตัวนี่ไม่ใช่เล่นๆเลยครับ สำหรับผมผมคงเลี้ยงตัสเป็นตัวแรกและตัวสุดท้ายครับ 555 ตอนตัสเป็นเด็กก็ร้องตลอด พอแก่ก็ร้องเหมือนเดิมครับ เหมือนมันวนกลับมาอีกทีครับ ตัวผมผมไม่รู้ว่าผมรักสุนัขมากแค่ไหนครับ บางทีผมก็โมโหครับ บางทีก็สงสารครับ แต่ผมเห็นพี่สาวผมครับ ไม่เคยโมโหเลยครับ คงเป็นเพราะพี่ผมรักสุนัขมาก และเป็นคนอุ้มตัสมาด้วยครับ 555 สุดยอดครับ ไว้ผมมาอัพเดทอีกทีครับ

วันนี้ 17 มีนาคม 2559
ผ่านมาอีกเดือนครับ ตอนนี้แผลกดทับก็ดีขึ้นมากครับ ข้างซ้ายแทบจะหายสนิทแล้ว ข้างขวาก็เล็กลงแล้วแต่ไม่ดีเท่าอีกข้างครับคงเป็นเพราะตัสมันจะไม่ค่อยยอมเอาข้างซ้ายลงครับ เหมือนเวลาเอาด้านซ้ายลงมันจะลุกเอาสอกตั้งไม่ได้แล้วก็ร้องครับ แต่ก็ต้องกลับมาให้เอาด้านซ้ายลงครับ พอเห็นว่าร้องได้นานพอสมควรแล้วก็กลับตัวครับ ส่วนเรื่องร้องนี่เวลาตัสร้องนี่ต้องเดาเลยครับ ไม่หิวน้ำ ปวดฉี่ ก็ปวดอึครับ ไว้ผมมาอัพเดทอีกทีครับ

วันนี้ 1 กรกฎาคม 2559
ผ่านไปหลายเดือนเลยครับ ผมไม่ได้มาอัพเดทเลยครับ ตอนนี้ตัสเหมือนเดิมครับ นอนตลอดเหมือนเดิมครับ 555 พลิกวันละ 2-3 ทีครับ หลังๆมานี่กินแปลกๆ ไม่ได้เลยครับ ตอนปกติผมให้ตับหมู ตับไก่ต้ม ไก่ย่าง ก็ไม่เป็นไรครับแต่พอตัสไม่สบายพอกินเข้าไปนี่ท้องเสียเลยครับ เช็ดกันจ้าละหวั่นเลยครับ ท้องเสียทีนึงนี่ 2-3 วันได้เล่นเอาเหนื่อยเลยครับ ให้ได้แต่อาหารเม็ดครับ นอกนั้นไม่มีอะไรครับ ต้องดูเลกันไปเรื่อยๆครับ

วันนี้ 18 สิงหาคม 2559
เมื่อประมาณวันอังคารที่ 16 สิงหาคม 2559 ครับตัสอยู่ดีๆ ก็ซึมๆ ครับ จิงๆ ก็ดูซึมๆ ตั้งแต่วันจันแล้วครับแต่วันอังคารมากกว่าวันจัน ดูไม่ค่อยมีแรงแต่ก็ยังกินอาหารได้ปกติครับ พอวันพุธดูแย่มากเลยครับไม่มีแรงเลยครับ ท้องเสียด้วย ผมตื่นมารีบมาดูตัส ดูแม่ผมกับพี่สาวป้อนน้ำตัสด้วยสลิ้งแล้วตัสหลับคาสลิ้งเลยครับ เท่านั้นแหละครับน้ำตาหยดกันทุกคนเลยครับ ข้าวก็กินไม่ได้ วันนี้มีแต่ให้น้ำทางสลิ้งแล้วก็คอยดูตัสครับ เช้าวันที่ 18 ผมตื่นมาตอนตี 3 ครึ่งได้ครับมาพลิกตัสกับพี่สาว ซักพักตัสก็ถ่ายเป็นมูกๆ ครับ หลังจากเก็บเสร็จ ก็ให้ตัสกินน้ำแล้วก็ผมก็มานอนต่อครับ พอประมาณ 10 โมงก็มาลองให้ข้าวตัสพร้อมกับแม่ครับ แม่ผมนี่สุดยอดครับแทอาหารเข้าข้างๆ ปากครับ คือตัสนอนตะแคงครับ ยกหัวตัสขึ้นนิดหน่อยแล้วก็กำอาหารเม็ดวางข้างๆปาก พร้อมกับฉีดน้ำจากสลิ้งด้วยครับ ตัสก็กินเรื่อยๆ ครับได้ซัก 1 กำมือได้ครับ แต่แม่ผมบอกว่าตอนเช้าให้ไปแล้วนิดหน่อยครับ ตอนนี้ก็ต้องดูเลตัสแบบใกล้ชิดหน่อยครับ พ่อผมตื่นมาต้องมานวดตัสก่อนทุกวันครับ หลังจากเห็นตัสกินได้แม้นิดๆหน่อยๆ ก็ยังดีครับ ไว้ผมมาอัพเดทให้เรื่อยๆครับ

ตั้งแต่เย็นมานี่เหมือนไม่รู้สึกตัวเลยครับ ให้น้ำ ข้าว ก็กินครับ แต่ดูดวงตาแล้วไม่ดีมากๆ เลยครับ ขี้ตาเยอะมาก พวกเราก็ได้แต่คอยเช็ดและดูเลอย่างใกล้ชิดครับ

วันนี้ 19 สิงหาคม 2559
ตัสอาการแย่ลงเรื่อยๆ ครับ หายใจถี่มาก เสียงหายใจดังด้วยครับ วันนี้เป็นวันที่กินข้าวกลางวันเส้าที่สุดเลยครับ เพราะพ่อ แม่ พี่สาว และผม ร้องไห้กันทุกคนเลยครับ เป็นครั้งแรกครับที่ผมเห็นพ่อร้องไห้ตังแต่เกิดครับ พอมองไปที่ตัสทีไรน้ำตาก็ไหลทุกทีครับ เป็นช่วงเวลาที่ทรมานใจที่สุดครับ

เวลาประมาณ 20:00-20:10 ตัสได้จากพวกเราไปแล้วครับ เหลือแต่ความทรงจำที่แสนพิเศษที่ตัสทิ้งไว้ ที่ผมและครอบครัวจะไม่มีวันลืม

ขอบคุณที่ติดตามครับ
44
เครือข่าย / การใส่โค้ดโฆษณา Adsense โดยไม่ใช้ Mods ของ SMF
« กระทู้ล่าสุด โดย nattasan เมื่อ มิถุนายน 17, 2015, 01:05:23 am »
สวัสดีครับ ผมใช้ SMF 2.0.9 ครับ

*** ก่อนทำอย่าลืม Backup ไฟล์ที่เราแก้ไว้หน่อยนะครับ

1. ที่แรกคือไปที่ Folder Theme ที่เราใช้ครับเลือก file -> index.template.php

1.1 กด Search ค้นหา
โค๊ด: [Select]
// Custom banners and shoutboxes should be placed here, before the linktree.
1.2 จากนั้นเติมต่อท้ายที่หาด้านบนด้วย
โค๊ด: [Select]
echo' <hr width="100%" size="1" class="hrcolor" /><center>
<script async src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- โฆษณาแบบ 728 x 90 ลีดเดอร์บอร์ด (โฆษณาแบบรูปภาพ/สื่อสมบูรณ์) -->
<ins class="adsbygoogle"
     style="display:inline-block;width:728px;height:90px"
     data-ad-client="XXXXXXXXX"
     data-ad-slot="XXXXXXXXX"></ins>
<script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script></center>';

2. อีกที่นึงก็คือใต้ Signature ของ Users ทุกคนครับ

ที่ Theme เดิมเปลี่ยนมาเปิด file->Display.template.php แทนครับ

2.1 จากนั้นค้นหา
โค๊ด: [Select]
<div class="signature" id="msg_', $message['id'], '_signature">', $message['member']['signature'], '</div>';
2.2 จากนั้นเติมต่อท้ายที่หาด้านบนด้วย
โค๊ด: [Select]
echo' <hr width="100%" size="1" class="hrcolor" /><center>
<script async src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- โฆษณาแบบ 728 x 90 ลีดเดอร์บอร์ด (โฆษณาแบบรูปภาพ/สื่อสมบูรณ์) -->
<ins class="adsbygoogle"
     style="display:inline-block;width:728px;height:90px"
     data-ad-client="XXXXXXXXX"
     data-ad-slot="XXXXXXXXX"></ins>
<script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script></center>';

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,38604.40.html

ขอบคุณครับ
45
เครือข่าย / วิธีทำให้ SMF 2.0.X โพสต์วีดีโอจาก Youtube ได้, Youtube SMF 2.0.9
« กระทู้ล่าสุด โดย nattasan เมื่อ มิถุนายน 15, 2015, 02:48:59 pm »
สวัสดีครับ

ผมอยากจะแชร์ประสบการณ์การโพสต์วีดีโอจาก Youtube ใน SMF 2.0.9 หลังจากที่ผมลง Mods หลายๆอันแต่ก็ไม่ได้ซักอันเลยครับ ผมเลยทำแบบ Manual แก้ไข file ทีละอันตามรายละเอียดด้านล่างครับ

1. /Sources/Subs.php

1.1 ค้นหา
โค๊ด: [Select]
array(
'tag' => 'white',
'before' => '<span style="color: white;" class="bbc_color">',
'after' => '</span>',
),

1.1 เติมต่อท้ายที่หาด้านบนด้วย
โค๊ด: [Select]
array(
'tag' => 'youtube',
'type' => 'unparsed_content',
'validate' => create_function('&$tag, &$data, $disabled', '
// Access globals
global $txt, $context;
// Determine which variable is the link
$link = !is_array($data) ? $data : $data[0] ;
// Remove linebreaks & trim
$link = trim(strtr($link, array(\'<br />\' => \'\')));
// Parse the ID of video or playlist safely
if  (preg_match(\'~^(?:http://((?:www|au|br|ca|es|fr|de|hk|ie|in|il|it|jp|kr|mx|nl|nz|pl|ru|tw|uk)\.)?youtube\.com/(?:[^"]*?)(?:(?:video_)?id=|(?:v|p)(?:/|=)))?([0-9a-f]{16}|[0-9a-z-_]{11})~i\'.($context[\'utf8\'] ? \'u\' : \'\'), $link, $matches))
{
// Localised youtube site?  If not use www.
$site = !empty($matches[1]) ? strtolower($matches[1]) : \'www.\' ;
// Video or Playlist ID?
$type = strlen($matches[2]) == 11 ? 1 : 0 ;
// Set sizes Or Normalise sizes (If sizes are <100 or > 780)
if(!is_array($data) || ($data[1] > 780 || $data[1] < 100 || $data[2] > 780 || $data[2] < 100))
$data = array(0, 425, ($type ? 350 : 355));
// Set ID in the array
$data[0] = $matches[2];
// Tidy up
unset($matches, $link);

// Set the Content (With conditions on disabled types of BBCode)
if (isset($disabled[\'url\']) && isset($disabled[\'youtube\']))
// Youtube & Url bbc disabled? (eg Printer friendly pages)
$tag[\'content\'] = "http://". $site ."youtube.com/". ($type ? "watch?v" : "view_play_list?p") ."=". $data[0];
elseif(isset($disabled[\'youtube\']))
// Only Youtube is disabled, So make an active link
$tag[\'content\'] = "<a href=\"http://". $site ."youtube.com/". ($type ? "watch?v" : "view_play_list?p") ."=". $data[0]."\" target=\"_blank\">http://". $site ."youtube.com/". ($type ? "watch?v" : "view_play_list?p") ."=". $data[0]."</a>";
else
{
// Empty content
$tag[\'content\'] = \'\';

// Build the <object> (Non-Mac IE Only)
if($context[\'browser\'][\'is_ie\'] && !$context[\'browser\'][\'is_mac_ie\'])
$tag[\'content\'] = \'<object width="\'.$data[1].\'px" height="\'.$data[2].\'px">\'
.\'<param name="movie" value="http://www.youtube.com/\'.($type ? "v" : "p").\'/\'.$data[0].\'&amp;rel=1&amp;fs=1" />\'
.\'<param name="wmode" value="transparent" /><param name="allowFullScreen" value="true" />\'
.\'<param name="allowScriptAccess" value="never" />\';
// Build the <embed>
$tag[\'content\'] .= \'<embed src="http://www.youtube.com/\'.($type ? "v" : "p").\'/\'.$data[0].\'&amp;rel=1&amp;fs=1" \'
.\'type="application/x-shockwave-flash" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" \'
.\'wmode="transparent" width="\'.$data[1].\'px" height="\'.$data[2].\'px">\';
// Build the <noembed>
$tag[\'content\'] .= "<noembed><a href=\"http://". $site ."youtube.com/". ($type ? "watch?v" : "view_play_list?p" ) ."=". $data[0]."\" target=\"_blank\">http://". $site ."youtube.com/". ($type ? "watch?v" : "view_play_list?p") ."=". $data[0]."</a></noembed>";
// Closing <embed>
$tag[\'content\'] .= \'</embed>\';
// Close the <object> (Non-Mac IE Only)
if($context[\'browser\'][\'is_ie\'] && !$context[\'browser\'][\'is_mac_ie\'])
$tag[\'content\'] .= \'</object>\';
}
}
else
// Invalid link
$tag[\'content\'] = $txt[\'youtube_invalid\'];
'),
'disabled_content' => '$1',
            ),
array(
'tag' => 'youtube',
'type' => 'unparsed_commas_content',
'test' => '\d+,\d+\]',
'validate' => create_function('&$tag, &$data, $disabled', '
// Access globals
global $txt, $context;
// Determine which variable is the link
$link = !is_array($data) ? $data : $data[0] ;
// Remove linebreaks & trim
$link = trim(strtr($link, array(\'<br />\' => \'\')));
// Parse the ID of video or playlist safely
if  (preg_match(\'~^(?:http://((?:www|au|br|ca|es|fr|de|hk|ie|in|il|it|jp|kr|mx|nl|nz|pl|ru|tw|uk)\.)?youtube\.com/(?:[^"]*?)(?:(?:video_)?id=|(?:v|p)(?:/|=)))?([0-9a-f]{16}|[0-9a-z-_]{11})~i\'.($context[\'utf8\'] ? \'u\' : \'\'), $link, $matches))
{
// Localised youtube site?  If not use www.
$site = !empty($matches[1]) ? strtolower($matches[1]) : \'www.\' ;
// Video or Playlist ID?
$type = strlen($matches[2]) == 11 ? 1 : 0 ;
// Set sizes Or Normalise sizes (If sizes are <100 or > 780)
if(!is_array($data) || ($data[1] > 780 || $data[1] < 100 || $data[2] > 780 || $data[2] < 100))
$data = array(0, 425, ($type ? 350 : 355));
// Set ID in the array
$data[0] = $matches[2];
// Tidy up
unset($matches, $link);

// Set the Content (With conditions on disabled types of BBCode)
if (isset($disabled[\'url\']) && isset($disabled[\'youtube\']))
// Youtube & Url bbc disabled? (eg Printer friendly pages)
$tag[\'content\'] = "http://". $site ."youtube.com/". ($type ? "watch?v" : "view_play_list?p") ."=". $data[0];
elseif(isset($disabled[\'youtube\']))
// Only Youtube is disabled, So make an active link
$tag[\'content\'] = "<a href=\"http://". $site ."youtube.com/". ($type ? "watch?v" : "view_play_list?p") ."=". $data[0]."\" target=\"_blank\">http://". $site ."youtube.com/". ($type ? "watch?v" : "view_play_list?p") ."=". $data[0]."</a>";
else
{
// Empty content
$tag[\'content\'] = \'\';

// Build the <object> (Non-Mac IE Only)
if($context[\'browser\'][\'is_ie\'] && !$context[\'browser\'][\'is_mac_ie\'])
$tag[\'content\'] = \'<object width="\'.$data[1].\'px" height="\'.$data[2].\'px">\'
.\'<param name="movie" value="http://www.youtube.com/\'.($type ? "v" : "p").\'/\'.$data[0].\'&amp;rel=1&amp;fs=1" />\'
.\'<param name="wmode" value="transparent" /><param name="allowFullScreen" value="true" />\'
.\'<param name="allowScriptAccess" value="never" />\';
// Build the <embed>
$tag[\'content\'] .= \'<embed src="http://www.youtube.com/\'.($type ? "v" : "p").\'/\'.$data[0].\'&amp;rel=1&amp;fs=1" \'
.\'type="application/x-shockwave-flash" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" \'
.\'wmode="transparent" width="\'.$data[1].\'px" height="\'.$data[2].\'px">\';
// Build the <noembed>
$tag[\'content\'] .= "<noembed><a href=\"http://". $site ."youtube.com/". ($type ? "watch?v" : "view_play_list?p" ) ."=". $data[0]."\" target=\"_blank\">http://". $site ."youtube.com/". ($type ? "watch?v" : "view_play_list?p") ."=". $data[0]."</a></noembed>";
// Closing <embed>
$tag[\'content\'] .= \'</embed>\';
// Close the <object> (Non-Mac IE Only)
if($context[\'browser\'][\'is_ie\'] && !$context[\'browser\'][\'is_mac_ie\'])
$tag[\'content\'] .= \'</object>\';
}
}
else
// Invalid link
$tag[\'content\'] = $txt[\'youtube_invalid\'];
'),
'disabled_content' => '$1',
),

1.2 ค้นหา
โค๊ด: [Select]
$disabled['email'] = true;
$disabled['flash'] = true;

1.2 เติมต่อท้ายที่หาด้านบนด้วย
โค๊ด: [Select]
// Disable youtube if on 'printer friendly page'
$disabled['youtube'] = true;

2. /Sources/Subs-Editor.php

2.1 ค้นหา
โค๊ด: [Select]
array(
'image' => 'flash',
'code' => 'flash',
'before' => '[flash=200,200]',
'after' => '[/flash]',
'description' => $txt['flash']
),

2.2 เติมก่อนหน้าที่หาด้านบนด้วย
โค๊ด: [Select]
array(
'image' => 'youtube',
'code' => 'youtube',
'before' => '[youtube]',
'after' => '[/youtube]',
'description' => $txt['youtube']
),

3. /Themes/default/languages/Modifications.english.php

3.1 ค้นหา
โค๊ด: [Select]
?>
3.2 เติมก่อนหน้าที่หาด้านบนด้วย
โค๊ด: [Select]
$txt['youtube'] = 'YouTube';
$txt['youtube_invalid'] = '#Invalid YouTube Link#';

4. /Themes/default/languages/Modifications.english-utf8.php

4.1 ค้นหา
โค๊ด: [Select]
?>
4.2 เติมก่อนหน้าที่หาด้านบนด้วย
โค๊ด: [Select]
$txt['youtube'] = 'YouTube';
$txt['youtube_invalid'] = '#Invalid YouTube Link#';

สุดท้ายครับอย่าลืมอัพโหลดรูป (Save รูปไป Upload ใช้ได้เลยครับ) ไปไว้ที่ธีมที่เราใช้ในปัจจุบันใน path ตามนี้ครับ /images/bbc

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
1. http://www.welovethailand.com/webboard/index.php?topic=52.0
2. http://custom.simplemachines.org/mods/index.php?action=parse;mod=936;attach=154120;smf_version=2.0

ขอบคุณครับ
46
Awesome!!! บทเรียนล้ำค่าจาก Jack Ma ผู้ก่อตั้ง Alibaba ชายผู้ที่ได้ชื่อว่ารวยที่สุดในประเทศจีน

Jack Ma ประธานบริษัท Alibaba เป็นผู้ประกอบการชาวจีนคนแรกที่ได้ปรากฏอยู่บนหน้าปกหนังสือ Forbes Magazine และได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่รวยที่สุดในโลก

ต่อไปนี้คือประสบการณ์ของ Jack Ma

ก่อนที่ผมจะก่อตั้ง Alibaba ผมเชิญเพื่อน 24 คนมาที่บ้านเพื่อพูดคุยกันเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจ หลังจากพูดคุยไปได้สองชั่วโมง พวกเขายังงงไม่หาย อาจเป็นเพราะผมยังสื่อสารได้ไม่ชัดเจนมากนักในตอนนั้น เพื่อนจำนวน 23 คนจากทั้งหมด 24 คนบอกให้ผมยกเลิกความคิดนั้นไปซะ ด้วยหลายเหตุผล เช่น ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอินเตอร์เนต และผมยังไม่มีเงินทุนสำหรับบริษัท Startup ด้วยซ้ำ และเหตุผลอีกมากมาย

มีเพียงเพื่อนคนเดียวเท่านั้นที่บอกผมว่า “ถ้าหากนายอยากจะทำ ก็ลองทำ ถ้าหากมันไม่เป็นอย่างที่นายหวัง นายก็แค่กลับไปทำงานเดิมที่นายทำก่อนหน้านั้นก็ได้” ผมคิดถึงคำพูดนี้ตลอดคืนนั้น และในเช้าวันต่อมา ผมตัดสินใจที่จะลงมือทำ แม้หากว่าเพื่อนทั้งหมดของจะไม่เห็นด้วยก็ตาม

ในช่วงแรกของการก่อตั้ง ทั้งครอบครัวและเพื่อนต่างก็ไม่เห็นด้วยกับผมเลย เมื่อมองย้อนกลับไป ผมตระหนักว่าสิ่งที่เป็นแรงผลักดันที่สุดไม่ใช่ความมั่นใจในพลังของโลกอินเตอร์เนต แต่เป็นคำๆนี้ “ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จ ประสบการณ์ที่ได้มาก็ถือว่าเป็นความสำเร็จของมันเอง” คุณจำเป็นต้องลองทำ ถ้าหากไม่สำเร็จ คุณก็แค่กลับไปทำงานเดิมของคุณก็แค่นั้น

เหมือนกับคำกล่าวของ T.E. Lawrence ที่กล่าวไว้ว่า “ทุกๆคนฝัน แต่ไม่เท่ากัน คนที่ฝันตอนกลางคืน ในฝุ่นคลุ้งแห่งการหลบถอยของจิตใจนั้น ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าฝันนั้นไม่ได้มีอะไร…. แต่ผู้ที่ฝันในเวลากลางวันนั้นเป็นคนที่อันตราย เพราะเขาจะโลดเล่นในความฝันด้วยดวงตาที่เปิดกว้าง และทำให้มันเป็นไปได้ สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมได้ทำ”

ผู้คนที่ล้มเหลวในชีวิตต่างก็มีสาเหตุ 4 สาเหตุด้วยกัน

- มองไม่เห็นโอกาส
- ดูถูกโอกาส
- ขาดความเข้าใจ
- ลงมือช้าเกินไป

คุณยากจนเพราะคุณไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน
ความทะเยอะทะยานทำให้ชีวิตของคนเรามีความหมาย เป็นเป้าหมายที่งดงามในชีวิตที่คนเราควรมี
ในโลกนี้มีเรื่องมากมายที่ยากเกินจะคาดเดา แต่ในโลกนี้ก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้เช่นกัน ความทะเยอทะยานของคนๆหนึ่งเป็นตัวกำหนดอนาคตของคนๆนั้น

บทเรียนจากประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจของ Jack Ma

ความผิดพลาดที่ผมเสียใจที่สุด

เมื่อปี 2001 ผมทำผิดพลาดอย่างนึงคือ ผมบอกกับผู้ร่วมงานจำนวน 18 คนที่ร่วมเดินทางกับผมในตอนแรกว่า ตำแหน่งที่พวกเขาสามารถทำได้สูงสุดคือระดับการจัดการเท่านั้น ส่วนตำแหน่งรองประธานและตำแหน่งระดับสูงอื่นๆ ผมจะจ้างบุคคลภายนอกเข้ามาแทน

หลายปีต่อมา คนเหล่านั้นที่ผมจ้างลาออกไป ส่วนคนที่ผมสงสัยในความสามารถทั้ง 18 คนกลายมาเป็นรองประธานและกรรมการบริษัทแทน

ผมเชื่อในหลักการสองประการคือ

- ทัศนคติของคุณสำคัญกว่าความสามารถของคุณ
- การตัดสินใจของคุณสำคัญกว่าความสามารถของคุณเอง

แน่นอนว่าคุณไม่สามารถทำให้ทุกคนคิดออกมาเหมือนกันได้ แต่คุณสามารถทำให้ทุกคนคิดถึงเป้าหมายเดียวกันได้
- อย่าคิดว่าคุณจะสามารถทำให้ทุกคนคิดเหมือนกันได้ นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
- 30% คือจำนวนคนที่จะไม่เชื่อในตัวคุณ อย่าให้คนอื่นทำงานเพื่อคุณ แต่จงให้พวกเขาทำงานเพื่อเป้าหมายเดียวกัน
- เป็นการง่ายกว่าที่คุณจะรวมบริษัทให้เป็นหนึ่งเดียวภายใต้เป้าหมายเดียวกันมากกว่าเป็นหนึ่งเดียวภายใต้คนๆเดียว

สิ่งที่ผู้นำมี แต่พนักงานไม่มี
ผู้นำไม่ควรเปรียบเทียบทักษะของตนเองกับทักษะของพนักงาน เพราะพนักงานควรมีทักษะในการทำงานมากกว่าคุณ ถ้าหากพวกเขาไม่มีทักษะในการทำงานเหล่านั้น แสดงว่าคุณจ้างคนผิด!

สิ่งที่ทำให้ผู้นำโดดเด่นกว่าพนักงานคือ
- ผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์และมองเห็นอนาคตได้ดีกว่าพนักงาน
- ผู้นำต้องอดทน จูงใจพนักงานได้ และไม่ยอมแพ้
- ผู้นำต้องยอมรับความล้มเหลวได้

คุณสมบัติของผู้นำที่ดีหลักๆคือ มีวิสัยทัศน์ แรงจูงใจ และความสามารถ

อย่ายุ่งเกี่ยวกับการเมือง
- ผู้คนควรเข้าใจว่า การเมืองกับธุรกิจไม่ควรเป็นเรื่องเดียวกัน เมื่อคุณอยู่ในเกมการเมือง จงอย่าคิดเรื่องเงิน เมื่อคุณอยู่ในธุรกิจ จงอย่าคิดเรื่องการเมือง
- เมื่อเงินบวกกับอำนาจทางการเมือง มันก็เหมือนกับระเบิดเวลาดีๆนี่เอง

4 แง่คิดสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่

- ความล้มเหลวคืออะไร?
    - ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ การยอมแพ้
- ความยืดหยุ่นคืออะไร?
    - เมื่อคุณผ่านความยากลำบาก ความผิดหวัง และเศร้าโศกมาได้ ตอนนั้นคุณจะเข้าใจเอง
- หน้าที่ของเราคืออะไร?
    - หน้าที่ของเราคือ ขยันให้มากขึ้น ทำงานหนักขึ้น และทะเยอทะยานเหนือผู้อื่น
- มีแต่คนโง่ที่ใช้ปากพูด คนฉลาดใช้สมอง คนที่ยิ่งใหญ่ใช้หัวใจ

เราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต
ผมบอกกับตัวเองเสมอว่า เราไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงาน แต่คนเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต เราเกิดมาเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าเพื่อคนอื่นๆ ถ้าหากคุณใช้เวลาทั้งชีวิตทำงาน คุณจะต้องเสียใจแน่นอนในสักวัน
ไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จมากมายสักแค่ไหน คุณต้องจดจำไว้เสมอว่า คุณเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต ถ้าหากคุณทำงานตลอดเวลา แน่นอนว่าสักวันคุณจะต้องเสียใจ

คู่แข่งและการแข่งขัน
- คนที่แข่งขันกับคู่แข่งอย่างเอาเป็นเอาตายล้วนเป็นคนโง่สิ้นดี
- ถ้าหากคุณมองว่าทุกคนคือศัตรู คนทุกคนรอบตัวคุณจะกลายเป็นศัตรูของคุณ
- ถ้าหากคุณแข่งขันกับผู้อื่น อย่าใช้ความเกลียดชัง ความเกลียดชังมีแต่ทำลาย
- คู่แข่งก็เหมือนกับการเล่นหมากรุก ถ้าคุณแพ้ เราก็เล่นรอบใหม่ คู่แข่งทั้งสองไม่ควรสู้กันเอง
- นักธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่แท้จริงไม่มีศัตรู เมื่อพวกเขาเข้าใจสิ่งนี้ โลกและโอกาสก็เปิดกว้างสำหรับพวกเขา

อย่าบ่นจนเป็นนิสัย
ถ้าหากคุณบ่นนานๆครั้ง นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่
แต่ถ้าหากมันกลายเป็นนิสัยแล้วจะเป็นเรื่องแย่ คนควรสังเกตุว่าคนที่ประสบความสำเร็จล้วนไม่ใช่คนที่เอาแต่พร่ำบ่น
โลกนี้ไม่สนหรอกว่าคุณจะพูดอะไร แต่แน่นอนว่าโลกนี้จะไม่ลืมว่าคุณได้ทำอะไรลงไปบ้าง

คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ
- โอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็นคือโอกาสอย่างแท้จริง
- จงให้พนักงานทำงานด้วยรอยยิ้ม
- ลูกค้าคือสิ่งสำคัญที่สุด พนักงานสำคัญรองลงมา และผู้ถือหุ้นสำคัญน้อยที่สุด
- ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะถูกเปลี่ยนแปลง
- ลืมเรื่องการหาเงินไปได้เลย
- ใส่ใจและดูแลลูกค้าประจำ แทนที่จะไปค้นหาเทคนิคดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่
- ทัศนคติกำหนดอนาคตของคุณ

บนถนนของการเป็นผู้ประกอบการ
- โอกาสที่ยิ่งใหญ่ยากที่จะอธิบายให้ชัดเจน สิ่งที่อธิบายได้ชัดเจนมักไม่ใช่โอกาสที่ยิ่งใหญ่
- ควรมองหาคนที่มีทักษะสมบูรณ์แบบเพื่อเริ่มก่อตั้งบริษัทด้วย คนๆนั้นไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จ แต่จงค้นหาคนที่ใช่ ไม่ใช่คนที่ดีที่สุด
- สิ่งที่ไว้ใจได้ยากที่สุดในโลกคือ มิตรภาพระหว่างมนุษย์
- ฟรี คือคำพูดที่แพงที่สุด
- วันนี้โหดร้าย วันพรุ่งนี้โหดร้ายกว่า แต่วันมะรืนจะงดงาม

4 สิ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรทำ
- สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ การไร้ซึ่งวิสัยทัศน์ มั่นใจเกินไป ขาดความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้
- ถ้าคุณไม่รู้จักคู่แข่ง หรือมั่นใจเกินไป หรือไม่รู้จักความสามารถของคู่แข่งดีพอ คุณจะโดนทิ้งไว้ข้างหลัง อย่าเป็น “พวกเขา” ในสุภาษิตนี้ “ในตอนแรกพวกเขาปฏิเสธคุณ จากนั้นพวกเขาหัวเราะคุณ จากนั้นพวกเขาก็รบกับคุณ สุดท้ายคุณเป็นผู้ชนะ”
- แม้ว่าคู่แข่งของคุณจะยังไม่เติบโตมากนัก คุณก็ควรระวังและถือว่าพวกเขาเป็นคู่แข่งจริงจัง
- ขณะเดียวกันถ้าหากคู่แข่งคุณเป็นยักษ์ใหญ่ คุณก็ไม่ควรมองว่าตัวเองเป็นแค่มดตัวเล็กๆเช่นกัน

การเริ่มต้นบริษัท
การเริ่มต้นบริษัทหมายความว่า คุณจะเสียรายได้ที่แน่นอน คุณไม่สามารถลางาน ลาหยุดยาว หรือเรียกร้องโบนัสได้
อย่างไรก็ตาม นั่นหมายความว่า รายได้ของคุณจะไม่จำกัด คุณจะได้ใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ และคุณก็จะไม่ต้องทำงานให้คนอื่นอีกต่อไป
ถ้าหากคุณมี Mindset ที่แตกต่าง คุณจะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง ถ้าหากคุณเลือกในสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น ชีวิตคุณก็จะแตกต่างจากคนอื่นเช่นกัน

โอกาส
ถ้าหากคนมากกว่า 90% มีความเห็นว่า “ใช่” สำหรับโครงการใดๆ ผมจะไม่เอาโครงการนั้นทันที เหตุผลง่ายๆคือ ถ้าหากคนจำนวนมากเห็นว่ามันดี แสดงว่ามีคนจำนวนมากกำลังทำสิ่งนั้นอยู่ และนั่นก็ไม่ใช่โอกาสสำหรับเราแล้ว

คุณยากจนเพราะคุณไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน

หมายเหตุ : ขออนุญาตเจ้าของบทความนะครับ ถ้าเจ้าของบนความเข้ามาอ่านจะให้ผมแก้อะไรหรือใส่ Reference ก็ Comment ได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ
47
สวัสดีครับ

ต้องบอกก่อนเลยครับว่าที่ต้อง Clone เพราะ HDD มี BAD ครับ 555 ผมเลยต้องทำการเปลี่ยน HDD แต่จะลง Windows ใหม่ก็กะไรอยู่ครับ Clone เลยดีกว่าครับ 555

ผม Clone HDD 3 เครื่องครับ

เครื่องแรก : HDD 1TB -> HDD 1TB (Windows 7 Home Premium 64Bit)
ผมใช้แผ่น Hiren's BootCD V9.9 ครับ เสร็จแล้วก็เลือกที่ Backup Tools ครับ จากนั้นผมลองใช้ Acornis TrueImage ครับ โดยช่วงนึงของ Menu ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับมันจะมีให้เลือกว่าพื้นที่เท่าเดิมหรือขยายพื้นที่ตาม HDD ตัวให้แต่ตัวนี้พื้นที่เท่ากันผมเลยเลือกให้พื้นที่เหมือนกันไปเลยผลออกมามี Partition นึงขนาดพื้นที่เปลี่ยนไปนิดนึงครับคือ Partition System Reserved ครับ จริงๆผมก็งงๆครับว่ามันเปลี่ยนไปได้ไงแต่ก็ไม่เป็นไรครับหลังจากเสร็จเรียบร้อยผมก็ลองใช้ HDD ลูกใหม่ Boot ปรากฎว่าไม่เข้า Windows ครับ ผมก็ตายละครับงานนี้ แต่พอลองหาข้อมูลก็เจอวิธีการทำให้เข้า Windows ได้จากที่เข้าไม่ได้ครับโดยการใช้แผน Windows Version ที่เราลงในเครื่อง แต่ตายละครับรุ่นนี้ผมไม่มีครับ ผมก็เลยหาข้อมูลอีกแล้วก็เจอ ว่าเราสามารถทำแผ่น System Repair Disc ได้จาก Windows ที่เราใช้งานครับก็เลยสลับลูกไปใช้ลูกเก่าก่อนครับแล้วทำ System Repair Disc (เจ้า System Repair Disc นี่ใช้แค่ CD นะครับเพื่อนๆ เวลา Create ครับ) จาก HDD ลูกเก่า พอทำเสร็จก็เปลี่ยนมาใช้ HDD ตัวให้แล้วก็ใส่แผ่น System Repair Disc ครับ ปรากฎว่าผ่านฉลุยครับใช้งานได้ดีทุกอย่างเหมือนลูกเก่าเด๊ะครับ ก็ต้องขอบคุณแหล่งข้อมูลหลายๆแหล่งด้วยครับ 555

มาถึงเครื่องที่ 2 ครับ
เครื่องสอง : HDD 2TB -> HDD 1TB (Windows 7 Pro 64Bit)
มาถึงเครื่องนี้ครับผมใช้แผ่น Hiren's BootCD V9.9 ครับ เสร็จแล้วก็เลือกที่ Backup Tools เช่นเดิมครับ จากนั้นผมลองใช้ Norton Ghost ครับตัวนี้โชคดีที่ข้อมูลแต่ละ Partition รวมกันไม่เกิน 1TB ครับผมก็ใช้ Norton Ghost ให้มาเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใน HDD ตัวใหม่แบบ Auto ครับแต่ Partition System Reserved ไม่เปลี่ยนแปลงครับให้คงขนาดเท่าเดิมไว้ซึงผลออกมาดีมากครับสำหรับ Norton Ghost ครับ Partition แต่ละ Partition ที่ผมกำหนดขนาดไม่เปลี่ยนแปลงครับแล้วพอใส่ HDD ลูกใหม่ Boot ก็ไม่มีปัญหาครับเข้า Windows ได้สบายๆเลยครับ ไม่ต้องใช้แผ่น System Repair Disc เหมือนเครื่องทีแล้วครับแล้วทุกอย่างเหมือนลูกเก่าเด๊ะครับ

มาถึงเครื่องสุดท้ายครับ
เครื่องสาม : HDD 640GB -> 1TB (Windows 7 Pro 64Bit)
คราวนี้ผมไม่ใช้ Hiren's BootCD V9.9 ครับผมเข้า Windows แล้วใช้ Program AOMEI Partition Assistant Standard Edition ครับ เป็น Freeware ครับ แต่คราวนี้ผมไม่ได้ให้ Program ขยายพื้นที่ Partition ให้ Auto นะครับผมให้มัน Fix ขนาด Partition เดิมไว้ครับ เพราะฉะนั้นจะเหลือพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งานเลยของ HDD ตัวใหม่ครับเพราะว่า HDD ตัวใหม่มีขนาดใหญ่กว่าครับแต่ก็ไม่เป็นไรครับเก็บไว้ก่อนครับ 555 หลังจากเสร็จเรียบร้อยครับก็เปลี่ยนไปใช้ HDD ตัวใหม่เลยครับทุกอย่างไม่มีปัญหาครับเข้า Windows ได้สบายๆเลยครับ ไม่ต้องใช้แผ่น System Repair Disc เหมือนเครื่องทีหนึ่งครับแล้วทุกอย่างเหมือนลูกเก่าเด๊ะครับ แต่ยังเหลือพื้นที่ที่ยังไม่ได้ใช้งานครับ คราวนี้ผมใช้ Program EaseUS Partition Master Free 10.2 ปรับแต่งขนาด Partition ซึ่ง EaseUS Partition Master Free 10.2 เป็น Freeware เหมือนเดิมครับผลออกมาก็ยอดเยี่ยมครับไม่มีปัญหาครับ

ตอนนี้ก็เสร็จเรียบร้อยครับ หวังว่าข้อมูลนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนครับ

ขอบคุณครับ
48
ไลฟ์สไตล์ / ไร่ชาฉุยฟง ไร่ชาที่ไม่ได้มีดีแค่วิวสวยงาม
« กระทู้ล่าสุด โดย Lazycatza เมื่อ กุมภาพันธ์ 01, 2015, 05:23:35 pm »
ถ้าเอ่ยถึง"ไร่ชา" :o ทุกคนคงมองเห็นภาพไร่ชาขั้นบันไดสีเขียวขจี สุดลูกหูลูกตา และคงคิดไปถึงชาวดอยที่แบกอุปกรณ์คล้ายตระกร้าที่หลังมาเก็บยอดอ่อนของใบชาชั้นดีที่ได้ปลูกไว้ และคงจะนึกถึงอากาศเย็นๆสบายๆ ที่ไร่ชาเป็นแน่แท้ ทั้งหลายที่พูดมาคุณเชื่อไหมว่าจะมีอยู่ที่ประเทศไทย ไร่ชาที่สวยและเป็น Organic แบบเกษตอินทรีย์ ซึ่งไร่ชาที่จะพูดถึงต่อไปนี้ก็คือไร่ชา “ฉุยฟง” มารู้ประวัติจากไร่ชาฉุยฟงกันคร่าวๆ กันหน่อยดีกว่าคะ ;D

ธุรกิจไร่ชาทื่มีชื่อว่า ฉุยฟงนี้ ปัจจุบันเป็นการรับช่วงต่อบริหารโดยทายาทรุ่นที่2 “สุบิน วนัสพิทักษกุล” ผู้ผลิตชารายใหญ่อันดับต้นๆ ของ จ.เชียงราย ได้ต่อยอดธุรกิจด้วยการปรับวิธีเพาะปลูกสู่เกษตรอินทรีย์ พร้อมเชื่อมโยงไร่ชาเข้ากับการท่องเที่ยว ก่อประโยชน์ทั้งแง่สังคม สิ่งแวดล้อม ตลอดจนเสริมให้ธุรกิจแข็งแรงโดดเด่นยิ่งขึ้น คิดว่าทุกคนก็คงมีคำถามและอยากรู้เหมือน  Lazycatza ไหมคะว่า ไร่ชาฉุยฟงเนี่ยปลูกชาอะไรบ้าง?? มีพื้นที่กี่ไร่?? และที่นั่นเดินทางไปยังไงอยู่ที่ไหน?? มีกิจกรรมหรือบริการอะไรน่าสนใจบ้าง?? วันนี้ Lazycatza จะหาคำตอบมาฝากทุกคนเองคะ ถ้าผิดพลาดตรงไหนหรือใครมีข้อมูลแบบรู้ลึกรู้จริงกว่าเสริมได้เลยนะเหมี๊ยววว>^^<

มาเริ่มกันที่ไร่ชาฉุยฟง ปลูกชาที่เน้นไปที่ชาสายพันธุ์ชั้นเยี่ยมจากจีน สูตรโบราณจากเมืองจีนแท้ๆ และชาเขียว นำมาปลูกที่พื้นที่เพาะปลูกที่ทำเป็นขั้นบันไดอย่างที่ทุกคนเคยเห็น โดยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 800-1,000 เมตร โดยในเริ่มแรกมีปลูกที่ดอยพญาไพร ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ตั้งแต่เกือบ 40 ปีที่แล้ว เมื่อธุรกิจชาเริ่มเป็นที่รู้จักและคนเริ่มหันมาสนใจดื่มชามากขึ้น จึงมีขยายมาปลูกที่อ.แม่ฟ้าหลวง และ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่นี่อากาศเย็นตลอดทั้งปีจึงปลูกชาได้คุณภาพดี ในตอนนี้ไร่ชาฉุยฟงมีพื้นที่เพาะปลูกไร่ชารวม 1,200 ไร่ :o
49
บทความนี้อยากส่งต่อให้ทุกคนที่ขับรถโดยเฉพาะรถเกียร์ออโต้และสุภาพสตรีอ่าน กรุณาอ่านให้จบครับ เพื่อความปลอดภัยและมีสติ...

เป็นวันที่ผมมิอาจลืมได้ ในชีวิตนี้ เวลาประมาณ 11.00 น. ผมได้ขับรถขึ้นทางด่วนพิเศษจาก ถนนจันทน์ มุ่งหน้าไปถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อที่จะไปทำบุญบริจาคสิ่งของ ที่บ้านเด็กอ่อนพญาไท ติด ถ.แจ้งวัฒนะ- ปากเกร็ด ขณะขับรถไปได้ประมาณ 20 นาที และมองไปที่คันเร่ง เห็นหน้าจอ ที่ 140 กม.ผมก็ได้ถอนคันเร่งและแตะเบรก 2 ครั้งเพื่อลดความเร็ว แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมได้ลองใหม่อีก 3 ครั้ง คราวนี้กระชากเบรกมือด้วยอีก 2 ครั้ง เบรกเท้าอีกก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง ความเร็วอยู่ที่ 130 กม/ชม. ผมได้พยายามกดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนสนิทที่นัดแนะไปทำบุญด้วยกัน เพื่อนแนะให้ลดเกียร์ จาก D เป็น 2 และ L ความเร็วลดจาก 130/ชม. เป็น 120- 110 ซึ่งลดลงได้เพียงเท่านี้ ความพยายามในการชะลอรถมากกว่า 10 นาที และลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง ไม่มีผลเลย ผมคิดว่าคงอาจจบชีวิตบนการทางพิเศษแล้ว เพื่อนได้แนะอีกครั้ง และสมาธิเริ่มรวบรว ม ความพยายามประมาณครั้งที่ 7 โยกเกียร์มาที่ช่อง N เป็นเกียร์ว่างแล้วดับเครื่อง คราวนี้รถได้ชะลอความเร็วลงมาก ผมได้ประคองขับรถต่อไปอีกประมาณ 5 กม.. กว่ารถจะหยุดได้ ซึ่งผมก็สามารถหยุดชิดขอบทางได้ เหมือนรอดตายพ้นนรก ผมรีบโทรบอกที่บ้านเพราะตอนแรกนึกว่าคงไม่ได้โทรสั่งเสียหรือสั่งลา ผมได้เดินอีกประมาณ 100 เมตรไปบอกเจ้าหน้าที่เก็บเงินที่ ด่านเก็บเงินใกล้แจ้งวัฒนะเพื่อขอความช่วยเหลือ รอประมาณ 10 นาที ก็มาช่วย ผลปรากฏว่าสาเหตุที่คันเร่งค้าง เพราะกล่องสัญญาณกันขโมยซึ่งหนักประมาณเกือบครึ่งกิโลไปทับอยู่ที่ ก้านของคันเร่งและเกิดการล็อคขึ้น ได้สอบถามกับอู่รถแล้ว อู่แจ้งว่า มีโอกาสเป็นไปได้ที่คันเร่งค้างจากสาเหตุดังกล่าว เนื่องจากกล่องสัญญาณกันขโมยจะติดตั้งอยู่เหนือคันเร่งติดตัวถังรถสิ่งที่ควรกระทำคือ ตั้งสติแล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N เป็นเกียร์ว่าง จากนั้นปิดสวิทช์กุญแจดับเครื่องยนต์และเปิดไฟฉุกเฉิน รถก็ยังวิ่งอยู่แล้วค่อย ๆ เหยียบเบรคเป็นระยะ ๆ ความเร็วรถจะค่อยลดลง จนสามารถจอดรถได้ การปิดสวิทช์กูญแจรถยนต์ดับเครื่องเลยในขณะที่เกียร์รถไม่อยู่ที่ N รถก็ยังวิ่งอยู่เครื่องยนต์เและระบบเกียร์จะเสียหายมากกว่าที่อยู่ช่อง N ครับ....

 *ขอเพิ่มเติมให้อีกหน่อยครับ ถ้าวิธีนี้ใช้ได้จริงดับเครื่องเฉย ๆ นะครับ อย่าดึงกุญแจออกจากรูกุญแจ เดี๋ยวพวงมาลัยล็อค จะยิ่งแย่เข้าไปอีก เพราะถ้าดับเครื่องโดยที่กุญแจยังเสียบอยู่  ก็จะยังบังคับเลี้ยวได้พวงมาลัยจะไม่ล็อค และจะสามารถเปลี่ยนเลนเพื่อหลบรถคันหน้าได้ จากไลน์ของเพื่อนๆที่ส่งมาให้ และแนะนำให้ส่งต่อเพื่อเป็นบุญกุศล อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว

ขอขอบคุณ : เจ้าของบทความครับซึ่งผมไม่ทราบว่าเป็นท่านใด ต้องขอโทษด้วยนะครับ ขออนุญาตแชร์บทความดีๆ ถ้าท่านเจ้าของบทความได้เห็นกรุณาเขียนแจ้งไว้ได้เลยนะครับ

ขอบคุณครับ
50
สวัสดีครับ

วันนี้ผมได้มีโอกาสซ่อมเครื่องของเพื่อนผมครับซึ่งมีปัญหา Wifi ของ Notebook มีปัญหาขึ้นกากบาทตลอดเวลาครับ ทั้งๆที่ Driver ก็หาเจอและตรงรุ่นครับ แต่ต้องบอกว่า Notebook ของเพื่อนผมค่อนข้างเก่านิดหน่อยครับแต่ก็ยังเร็วใช้ได้นะครับ 555 วิธีแก้หลังจากที่ผมลองหลายๆวิธีที่ค้นหาจาก google ลองทำแต่ก็ไม่หายครับ วิธีของผมก็คือการเข้า Bios ครับ หลังจากกดเปิดเครื่องแล้วก็เข้า Bios เลยครับหลังจากนั้นให้เลือก Restore to default ครับบางเครื่องอาจจะไม่ใช่คำนี้ครับ แต่ก็คือการคืนค่าเดิมทั้งหมดของ Bios ครับ หลังจากผมลองแล้วก็ใช้ได้ครับ ลอง Format แล้วก็ลง Windows อีกหลายครั้งครับทั้ง 7, 8 เวลามีปัญหาก็เข้า Bios แล้วทำตาม step ด้านบนก็ใช้ได้ครับ เพื่อนๆ ลองดูนะครับวิธีนี้อาจจะเป็นวิธีที่ work สำหรับเพื่อนๆก็เป็นได้ครับ

ขอบคุณครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 9